อาถรรพ์ของพลอย ภาค 16

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ ผมขอเล่าต่อเลยนะครับ ท่านใดที่จะทำธุรกิจ ซื้อขายพลอยก็ต้อง เจอแบบเดียวกับผมนี้แหละครับ สำหรับท่านที่จะไปหาซื้อพลอย ก็ลองอ่านดูนะครับ เขาขายพลอยกันอย่างไร เมื่อผมขอดูก่อน พ่อค้าพลอย เอาพลอยที่ห่ออยู่ในซองกระดาษสีขาว ใหญ่ขนาดสองนิ้วx สองนิ้ว เปิดออกมาให้ผมดู มีพลอยนิหล่าหลังเบี้ยสีเทา ขนาดใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยอยู่ห้าเม็ด ผมหยิบมาดู เห็นมีรอยตำหนิเยอะ ผมบอกว่าไม่เอา เขาเก็บพลอย แล้วเอาซองใหม่ออกมาให้ดู มีพลอยนิหล่า หลังเบี้ยสีฟ้าขนาดใหญ่ เท่ากับซองแรก ผมหยิบมาดู เห็นมีรอยตำหนิเหมือนซองแรก ผมบอกว่าไม่เอา

▬ เขาเก็บพลอย แล้วเอาซองใหม่ออกมาให้ดูอีก เป็นนิหล่าสีน้ำเงินขนาดเท่ากับสองซองแรก ผมหยิบมาดู เห็นมีรอยตำหนิอีก ผมบอกไม่เอาอีก เขาเก็บพลอย และเอาซองใหม่ออกมาให้ดูอีก คราวนี้เป็นพลอยนิหล่า แต่มีสตาร์หกแฉก สีเทา และบอกผมว่าเป็นของดีมีสตาร์ ผมหยิบมาดูอีก เนื้อพลอยยังทึบและมีตำหนิ ผมบอกไม่เอา และถามว่าของดี ๆ ไม่มีหรือ ? คราวนี้เขาเอานิหล่า สีน้ำเงินเข้ม มีสตาร์ออกมาให้ดู ผมหยิบมาดู ยังเห็นมีตำหนิอยู่ และเนื้อยังทึบ ผมบอกว่าไม่เอา

▬ พ่อค้าพลอยคะยั้นคะยอให้ผมซื้อ ผมถามราคา พลอยแต่ละอย่าง ที่เอาออกมาให้ผมดู ( ผมขอปิด ราคา ) ราคาพลอยแต่ละอย่างรับไม่ได้เลย แพงลิบลิ่ว ผมคิดในใจเห็นผม เป็นวัวกินหญ้าหรือไง ผมบอกไม่ซื้อ แพงมากซื้อไม่ไหว พ่อค้าพลอยเก็บของ ลุกเดินออกไป มีพ่อค้าพลอยคนใหม ่เดินเข้ามา นั่งแล้ว เอาพลอยออกมาให้ผมดู คราวนี้เป็นนิหล่า สีน้ำเงินสวยมากไม่มีตำหนิ ผมบอกไม่เอา เขาเก็บ พลอยเอา ซองใหม่ออกมาให้ดู คราวนี้เป็นทับทิม หลังเบี้ยสีแดงเลือดหมู เม็ดเท่าเม็ดข้าวโพด สี่เม็ดผมหยิบมาดู ยังมีตำหนิอยู่ ผมบอกไม่เอา เขาเก็บพลอย และเอาซองใหม่ออกมาให้ดู คราวนี้เป็น ทับทิบหลังเบี้ย สีแดงเลือดหมูแต่มีสตาร์ขนาดเท่ากับซองแรก ผมหยิบมาดู ยังมีตำหนิอยู่ ผมบอกไม่เอา เขาเก็บพลอย และเอาซองใหม่ออกมาให้ดูอีก คราวนี้เป็นทับทิม เจียระไนแล้ว สีแดงสวยมาก ขนาดเท่านิ้วก้อย ผมหยิบมาดู ยังมีรอยตำหนิอยู่ ผมบอกว่าไม่เอา คราวนี้ เขาถามผมว่า เอาของดีไหม ?

▬ เขาบอกดูตรงนี้ไม่ได้ แล้วชวนผมเข้าไปข้างในบ้าน (ผมขอเรียกห้องแถวว่าบ้าน ก็แล้วกัน ง่ายดีครับ) ภายในบ้านจะมีห้องเล็ก มีโต๊ะและเก้าอี้ ให้นั่งกินน้ำชาคุยกันได้ ผมเดินเข้ามากับ หัวหน้าคนงาน ของผม พ่อค้าพลอย เอาทับทิบที่เจียระไนแล้วออกมาให้ดู สีแดงดอกกุหลาบสวยมาก ไม่มีตำหนิ และบอกผมว่าเม็ดนี้น้ำหนัก ห้ากะรัต และถามผมว่า ซื้อพลอยไปขายหรือ ? ผมบอกว่าใช่ ผมถามราคาเม็ดนี้เท่าไร ? เขาบอกราคาผม ( ขอปิดราคา ) ผมได้แต่สะดุ้ง ผมเลยบอกว่า ยังไม่ซื้อเม็ด นี้หรอก ขอซื้อเม็ดอื่นได้ใหม? ( ผมคิดในใจพ่อค้าคนนี้มีของดี กล้าเอามาขายในสถานที่แบบนี้ จะเป็นของแท้ หรือไม่แท้ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยซื้อ เลยอยากจะผูกน้ำใจเอาไว้ก่อนดีกว่า )

▬ เขาถามผมว่าเอาซองไหน ? ผมบอกเอาทับทิมหลังเบี้ยที่มีสตาร์ เขาบอกว่าขายทั้งซองเลย ( ทั้งซองมีสี่เม็ดแต่ละเม็ด ความสวยงามไม่ค่อยเท่ากัน ) ผมเลือกหยิบออกมาเม็ดหนึ่ง แล้วบอกว่า ขอซื้อเม็ดเดียว พอเขาบอกราคาผม ๆ ก็รับไม่ได้อีก หากซื้อยกซองก็ไม่ไหว ผมคิดในใจ วันหยุดไปเช็ค ราคาตามร้านขายพลอยดีกว่า ผมเลยขอตัวกลับ

▬ ที่เล่ามาเป็นการยกตัวอย่าง ให้ท่านที่ยังไม่เคยเขาไปซื้อของ ในตลาดคนเดินพลอย ผมจะชอบ เรียกว่า ตลาดคนเดินเพชรพลอย เพราะมี่ทั้งเจ้าของพลอยมาขายเอง และพวกที่ได้รับการไว้ใจ จากเจ้าของพลอยให้นำ พลอยมาขายให้ พวกนี้จะมีวิธีการขายที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ จะเหมือนกัน อยู่อย่างก็คือ จะชอบเอาของที่คุณภาพต่ำ ออกมาขายก่อน แล้วเก็บของดีไว้ขายที่หลัง เมื่อท่านซื้อของ คุณภาพต่ำไปแล้ว เขาก็จะเอาของคุณภาพดีมาให้ท่านดู อีก ท่านก็จะเกิดความอยากได้ขึ้นมาอีก และก็ต้องซื้ออีก เป็นแบบนี้เกือบทุกประเทศ แต่ละประเทศจะมีตลาดแบบนี้อยู่ ท่านต้องหาให้เจอว่า มันอยู่ตรงไหน ของประเทศนั้น และบางวันอาจมีคนเดินพลอย หรือพ่อค้าพลอย รวมทั้งเจ้าของพลอย มาหาท่านเป็นร้อย คน บางที่ผมก็ซื้อตรงนั้น และก็ขายตรงนั้นเลยก็มี หากได้กำไรงาม ๆ บางเดือน ผมซื้อ ด้วยเงินเดือนบวกด้วยเบี้ยเลี้ยง หมดเลย กลับมาเมืองไทยมีแต่พลอย เงินเดือน กับเบี้ยเลี้ยง หมดแล้ว เพราะเจอของสวย ๆ ถูก ๆ บางที่ก็ไปเดินร้านแบกะดิน คนขายยังไม่รู้เลยว่าเป็นของแท้ ซื้อมาร้อยหนึ่ง ขายได้เป็นหมื่นก็มี

▬ ถ้าท่านดูพลอยเป็น แต่ถ้าดูไม่เป็นอย่าเสี่ยงนะครับ ก่อนไปเที่ยวต่างประเทศ ควรมีความรู้เรื่อง พวกนี้ไปบ้างก็ดีนะครับ ไม่ต้องต่างประเทศก็ได้ครับ แบกะดินตามดอยแถวภาคเหนือ กลับมาก็มี ค่าน้ำมันแล้วครับ แต่ต้องรู้ว่าซื้อมาแล้วเอาไปขายที่ไหนนะครับ พ่อค้าพลอยส่วนใหญ่ จะไม่ยอมบอก กันเด็ดขาด ว่าไปซื้อพลอยกันที่ไหน และนำไปขายกันที่ไหน พ่อค้าพลอยบางคนซื้อพลอยจาก บ่อพลอยในเมืองไทยนี่แหละครับ แต่เวลาขายก็บอกว่า มาจาก ศรีลังกา บ้าง มาจาก แอฟริกาบ้าง เพื่อไม่ให้พ่อค้าพลอยคนอื่นทราบได้ ไม่งั้นพวกที่มีเงินเยอะรู้เข้าก็ไปกว้านซื้อหมด โดยเฉพาะพวก ฟอกเงิน หรือพวกพ่อค้าที่มีนักการเมือง ขี้โกงเป็นนายทุนให้ ( เล่ามากไปป่าวเนี่ย )

▬ หินที่พวกท่านขายอยู่ ก็เหมือนกันนะครับ ผมดูหมดแหละ ว่าพวกท่านขายอะไรกัน บางก้อนบอกว่า มาจากประเทศนั้น ประเทศนี้ บางครั้งผมนั่งดูรูปแล้วก็หัวเราะ เขาปิดกัน แม้แต่แหล่งหิน ที่มาของมันเลย บางก้อนผมไปขุดมากับมือ เวลาว่างผมจะชอบไป ดูว่าพวกท่าน ทำอะไรกัน ขายอะไรกัน ฮิ ฮิ แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งนะ ร้านไหนที่ขายของแท้ ก็บอกลูกค้าว่าแท้ ร้านไหนที่ขายหินอัด ก็บอกว่าเป็นหินอัด หรือเป็นหินแท้แต่ย้อมสีให้สวย ร้านที่บอกลูกค้าตรงไปตรงมา

▬ ผมมีความรู้สึกว่า เขาอยู่ได้เขาไม่เดือดร้อน แต่ร้านไหนที่ชอบโกหกหลอกลวง ผมดูคนพวกนี้ ส่วนใหญ่ แล้วคงจะเดือดร้อนเรื่องเงิน บางครั้งผมไปเจอพลอยของผมนำเข้า ประเทศมากับมือแท้ ๆ ผมไปแกล้งถามซื้อ ยังบอกราคา (ไม่อยากเล่า ) เจ้าของร้าน บางคนนะครับ ผมจะบอกให้ อาจไม่มีบุญ ที่จะได้ซื้อของดีราคาถูกจากคนเดินพลอย เลยครับ เพราะปากของเขาไม่ดี เจ้าของร้านบางคนนะครับ แต่งตัวอย่างกับคุณหญิงคุณนาย นั่งอยู่หน้าร้าน เวลาคนเดินพลอยเข้าไปถาม ว่าซื้อพลอยไหม ? คำตอบที่ได้รับ (ได้ยินเสียงสุนัขร้องเพลง ยังเพราะกว่าเลยครับ)

▬ บางครั้งพวกคนเดินพลอยมาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ไม่อยากเชื่อเลยครับ เขาบอกว่า มี่อยู่ร้านหนึ่ง เขาเคยเอาพลอยมาขายประจำ ร้านนี้จะชอบซื้อของ คุณภาพปานกลางจากเขา แต่ครั้งนี้เขาไม่มีของ คุณภาพปานกลาง เขามีแต่ของคุณภาพดี ๆ ทั้งนั้นเลย พอเขาเอาของไปขายให้ ก็ว่าเขาว่าไปขโมย ใครมา เขาเลยไม่ขายให้ แล้วเอาไปขายให้ พวกนายทุนที่มีพ่อค้ายาหนุนหลังอยู่ เวลาผ่านไปได้ สองเดือน เขาไปที่ร้านนี้อีก เขาเห็นพลอยของเขา ๆ จำได้ วางขายอยู่ในร้าน เขาบอกผมว่าตั้งแต่นั้นมา เขาไม่เคยเข้าร้านนี้อีกเลย

▬ เอาไหน ๆ เล่าเรื่องนี้แล้ว ก็ต่ออีกหน่อยเป็นไง ยกตัวอย่างสักสองเรื่อง ๆ เกิดขึ้นเมื่อปี่ที่แล้วนี้เอง เรื่องนี้ร้านขายหินไม่ฟัง แล้วระวังจะเสียใจ มีพ่อค้าหยกรายหนึ่ง ประมูลหยกได้จากประเทศหนึ่ง ก้อนใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย ก้อนหนึ่งเป็นร้อย ๆ กิโล เป็นตันก็มีครับ แล้วทำเรื่องส่งออกไปขาย ยังต่าง ประเทศ ก็ได้รับอนุญาต จากรัฐบาลของประเทศนั้น แต่ว่าอนิจจา ผลประโยชน์ไม่ลงตัว หรืออย่างไร ไม่ทราบได้ ถูกจับได้ หยกหลายสิบก้อน ถูกผ่าออกมา แทนที่จะเห็นเนื้อ หยกจักรพรรดิ ให้ชื่นใจ ดันกลายเป็น ยาตราม้าลำพองไปได้อย่างไร ทำให้ต้องเดือนร้อนกันไปหมด

▬ และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าคนเดิมนี้แหละ ประมูลไม้ซุงได้ และทำเรื่องส่งออกไป ไต้หวัน ผลประโยชน์ไม่ลงตัวอีกโดนจับได้ ไม้ซุงผ่าออกมาแทนที่จะได้ไม้กระดาน ดันได้ ยาเฮอา เป็นกิโลเลย เป็นยังไงครับ ลองฟังบท กะ แดะ หน่อย เป็น ไง ผมแต่ง กลอนไม่เป็น ๆ แต่ บทกะแดะ

เหวย เหวย ว่า ท่าน ยู่ฉาง นั้น วางมือ
แว่ว แว่ว รู้ ท่าน เสียว กัง กำ ลังถือ
เหมือง เปลี่ยน มือ หยก เปลี่ยน นาย ดัง ค่าย กล
จักรพรรดิ หยก นั้น หมด แล้ว อย่า ได้ หา
จักรพรรดิ ยา มา พร้อม หยก ยก กำ ลัง สอง
หยก อาถรรพณ์ บวก ยา บ้า ม้า คะ นอง
ใช้ บำ บัด ทุก บำ รุง กาย สะ บาย ไป เลย ยยยยย

▬ ลื่นหูดีไหมครับ ? ตีความออกมัยครับ คงไม่กินปัญญา เอาพอหอมปากหอมคอ ก็พอนะครับ ช่วงวันหยุด ผมไปตามร้านขายพลอย ส่วนใหญ่ผมจะเลือกซื้อของ ที่ถูก ๆ ภายในร้านอะไร ก็ได้ภายในร้าน สักชิ้นหนึ่ง เพื่อผูกน้ำใจกับเจ้าของร้าน ไว้ให้เขารู้จักผม เกือบจะทุกร้านที่ผมเดินเข้าไป และผมก็ถือโอกาส สอบถามราคา ของพลอยแต่ละชนิดด้วยว่า ขายอย่างไร และราคาเท่าไร

▬ วันต่อมาผมก็เข้าไป ใหม่อีก คราวนี้ผมก็ ซื้อพลอย ร้านละเม็ด สองเม็ด เอาเม็ดเล็ก ๆ ราคาไม่แพง ซื้อทุกร้านเลย และ ก็เข้าไป บ่อย ๆ ซื้อตั้งแต่คุณภาพต่ำ ไปจนถึงคุณภาพดี แล้วผมก็เก็บพลอยพวกนี้ไว้ มาศึกษาดูตำหนิ ดูรอยแตก รอยร้าว และมลทินต่าง ที่อยู่ในพลอย กับพวกพ่อค้าพลอย ในตลาด คนเดินพลอย ผมก็ทำแบบนี้แหละครับ ผมก็พยายามซื้อของเขาทุกคนเลย คนเดินพลอยพวกนี้ แต่ละคน จะหาของได้เก่ง คนละอย่างไม่เหมือนกัน บางคนหาทับทิมเก่ง แต่หาอย่างอื่นไม่เก่ง บางคนก็หา มรกตเก่ง แต่หาอย่างอื่นไม่เก่ง ผมใช้เงินเดือน บวกเบี้ยเลี้ยงซื้อพลอยกับ คนพวกนี้ อยู่หนึ่งปี เต็ม ๆ

▬ ผมมีพลอยทุกชนิด เวลาว่างผมนั่งดู นอนดูเป็นของเล่นไปเลย ผมกลับมาเมืองไทย แต่ละครั้ง ผมก็หิ้วกลับมา เป็นกิโล มีตั้งแต่ เป็นหิน และเป็นพลอยคุณภาพเยี่ยม อันไหนที่ ผมไม่มั่นใจ ผมก็จะนำ ไปตรวจ กับสถาบันแห่งหนึ่งที่ผมไว้ใจ พลอยบางเม็ดผมซื้อมา เอาไปตรวจ ค่าตรวจ ยังแพงกว่า ค่าพลอย เลยครับ แต่ความหายากของมันนั้น สุด ๆ ไปเลย

▬ ของบางอย่าง ท่านมีเงินเป็น พันล้าน ซื้อเพชรดี ๆได้เป็นกิโล แต่ซื้อพลอยหายากสักเม็ดยังไม่ได้ เลย พลอยบางเม็ด ท่านเห็นแล้วจะตกใจ ท่านอยู่ไกลเป็นกิโล ยังมองเห็นแสงของมันได้ เรื่องนี้ผม จะเล่าให้ฟัง ผมมีพลอยดี ๆ อยู่หลายเม็ด (ผมไม่อยากบอกว่าเป็นพลอยอะไรเดี๋ยวท่าน ไปหากัน เสียเงินอีก) ประกายไฟมัน สุดยอดเลยครับ ผมมาทำแหวน ใส่ ไม่ได้ล้อมเพชร ผมไปงานเลี้ยง งานของท่านผู้ใหญ่ งานหนึ่ง ผมดันไปนั่งรวมโต๊ะกับพวกคุณนาย ทั้งหลายใส่เพชรกันยัง กะตู้เพชรเคลื่อนที่ อยู่สี่ห้าคน ผมนั่งกุมมือไว้ใต้โต๊ะ ฟังพวกเขาคุยกัน แบบไม่เห็นหัวคนอื่น ๆ เลย พอได้เวลาทานอาหาร ผมก็ต้องเอามือ ขึ้นมาหยิบอาหาร กินบนโต๊ะซิครับ แสงไฟในงานเลี้ยง ที่ส่องมากระทบ หัวแหวนที่มือผม มันทำ ให้งานเลี้ยง เงียบเหงาไปเลย ผมก็ต้องก้มหน้าก้มตา รีบกินให้อิ่ม แล้วก็รีบกลับซิครับ ว้านอกเรื่องใหญ่แล้วผม

▬ ผมทำแบบนี้ เพื่อผูกน้ำใจกับพวกพ่อค้าพลอย เพื่อจะตามหา มรกตของผม และได้เรียนรู้เรื่อง พลอยไปด้วย การเรียนรู้ของผมราคาแพงไปหน่อย แต่ก็คุ้มนะครับ ท่านมีเงินหนึ่งแสน อาจมีพลอย ไว้ให้ศึกษาได้ เกือบครบทุกชนิด หากท่านมีเวลา และโอกาสดี ๆ แต่หากไม่มีเวลา ก็ขอให้ท่านไปหา ที่เรียนรู้ ให้เก่งก่อนจะดีกว่าครับ แต่ท่านต้องจำให้แม่น ๆ นะครับ หากจำไม่แม่น ๆ ที่เรียนรู้มาก็อาจ ได้ผลน้อย เพราะต้องไปหาซื้อของจริงมาเก็บไว้ดู ไว้ศึกษา บวกกับการหาความรู้ในตำราต่าง ๆ อีก เพราะ การไปซื้อพลอยแต่ละครั้งนั้น ท่านจะพบ กับ เสือ สิงห์ กระทิง แรด และ บรรดาสัตว์ต่าง ๆ อีกมากมาย มี บ้างครั้งผมทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

▬ แต่ถ้าไม้ตาย ของเราต้องมีครับ เช่น ทำตัวโง่ ๆ ไว้ ในบ้างโอกาส และบางโอกาสท่านก็หา วิญญาณ ของสัตว์ต่าง ๆ มาเล่นเอาเอง เถอะครับ แต่ถ้าไม้ตาย ของผมที่ใช้มาตลอดก็คือ พลอยทุกเม็ด แค่มองเฉยๆ ก็ต้องรู้ ให้ได้ว่าแท้ หรือเป็นอะไรกันแน่ ไม่จำเป็นผมไม่เคยหยิบกล้อง ขึ้นมาส่อง และไม่แน่ใจอย่าซื้อ ไม่ว่ากับคนคุ้นเคยหรือ พ่อค้าที่ไม่เคยรู้จัก อย่าใจร้อน อย่า งก อย่าโลภมาก พูดจาให้นิ่มนวลเข้าไว้ พยายามผูกไมตรีกับพ่อค้าทุกคน บางครั้งผมไม่อยากซื้อ แต่เขาก็เอามาจำนำ ไว้ก่อนก็มี เวลาเขามีลูกค้าเขาก็มาเอาไป แต่ในกรณีนี้ ท่านต้องระวังนะครับ ในบางประเทศท่านอาจ โดนหักหลังได้ สารพัดรูปแบบ ( อาจหลบด้วยวิธีให้เขายืมเงินใช้ ) แต่มากไปก็เป็นอันตรายนะครับ เอาแหละครับท่าน ก็รู้วิธีการซื้อพลอยของผมแล้ว พรุ่งนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการตามหา มรกต ของผม ท่านจะได้ไม่สงสัย ว่าทำไม่ผมต้อง ทำอย่างนั้นอย่างนี้ นะครับ ผมจะพยายามสรุป ให้สั้นที่สุดและเข้าใจง่าย ครับ

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1267