อาถรรพ์ของพลอย ภาค 29

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ อาถรรพณ์ของพลอยตอนที่ ยี่สิบเก้า สวัสดีครับทุก ๆท่าน ตอนที่แล้วผมอาจจะเล่าเรื่องต่างๆ หนักมือไปหน่อยบางเรื่อง ที่ผมไม่ควรเล่าผมก็เล่า แต่ผมเองก็ไม่รู้เป็นอะไร บางเรื่องผมลบแล้ว ลบอีกว่า ไม่ควรเล่า แต่เหมือนมีอะไรมาดลใจให้ผมต้องเขียนทำให้ ผมต้องเล่าเขียนลงไป และหากไปทำให ้กระทบกระเทือนใจใคร ผมต้องขอกราบ ขออภัยด้วยนะครับ

▬ พระอรหันต์ จี้กง ท่านกล่าวไว้ว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้น ดีกว่าเกิดเป็นเทวาดาอีก แต่ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์นั้น จะปฏิบัติตัวได้แค่ไหนเอง ท่านทั้งหลายตีความหมาย ปริศนาธรรมข้อนี้ออกไหมครับ ? ผมเองไม่กล้าขยาย ความปริศนาธรร มข้อนี้มากนัก ผมเพียงแต่คิดว่า หากเรามองดูองค์สมเด็จ พระสัมมาพระพุทธเจ้าของเรา ๆ ให้ดี เราก็จะเห็นว่า เป็นเพราะพระองค์ท่าน ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ จึงได้มีโอกาสสะสมความดี มากกว่าเทวดาอีก แล้วท่านก็ได้บรรลุ เป็นพระอรหันต์ ทำให้เทวดา ยังต้องบูชาท่านเลยครับ ตอนนี้พวกเรา ก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว การเดินตามรอยพระบาท ของพระพุทธองค์นั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้วครับ แล้วบารมีที่ท่าน สะสมไว้ หรือความดีที่ท่าน สร้างสะสมไว้ ก็จะทำให้ท่านได้พบกับสิ่งที่ท่านต้องการครับ

▬ บารมีและความดีนั้น ทำให้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์ต่างๆ มากมายครับ อัญมณีและหินสีต่าง ๆ นั้นหากท่าน เปิดอ่านพระไตรปิฎก ดูท่านก็พอที่จะทราบเรื่องราว ของพวกเขาบ้างไม่ มากก็น้อย (ลองค้นหาคำว่าแก้วมณี แก้วประพาฬ แก้วมุกดา ในพระไตรปิฎกดูนะครับ) ของพวกนี้จะเป็นที่หมายปอง ของพวก ผู้ที่มีอำนาจ และสิ่งเร้นลับ ทั้งหลายต่าง ๆ เข้าไปสิงสถิตอยู่นะครับ แม้แต่พระพุทธองค์ท่าน ยังกล่าวไว้เลยครับลองหาดูนะครับ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมเล่าไปตอนที่แล้วว่าเราไม่ได้เรียนมาทางเดียวกันจึงทำให้เราคุยกันคนละภาษา จริงหรือไม่ครับ ผมจะอธิบายขยายความ ให้นะครับ เดียวท่านที่ไม่เข้าใจ จะโกรธผม ท่านจะเห็นว่า พระพุทธองค์นั้น ท่านทรงห้าม พระอรหันต์ พระสงฆ์ ทุกรูปแสดงอิทธิฤทธิ์ หรือปาฎิหาริย์ ต่าง ๆ ให้กับประชาชน ดูคัมภีร์พระพุทธศาสนา บางเล่มถึง กับกำหนดข้อห้ามของ พระสงฆ์ที่ได้สำเร็จญาณชั้นสูง หรือเกือบ จะเป็นพระอรหันต์อยู่ แล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ ห้ามไปสนทนาธรรมชั้นสูง กับพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้ญาณ ชั้นเดียวกัน หรือระดับเดียวกัน เลยครับ เป็นเพราะอะไรหรือ ผมจะอธิบายให้ฟังอย่างง่ายๆ นะครับ .....

▬ ข้อแรก ห้ามแสดงอิทธิฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ ให้ประชาชนดู ท่านห้ามเพราะว่า กลัวว่าประชนชน จะหลงงมงายกับเรื่องเหล่านี้ จะไปยึดติดอยู่กับเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าประชาชนเหล่านั้น ไม่มีโอกาสที่จะได้ปฏิบัติตัว ให้อยู่ ในศีลในธรรม หรือเป็นคนดีได้ตลอดเวลา เท่ากับพระสงฆ์ ที่ได้ปฏิบัติตัวและระวังตัว หรือที่เรียกว่าสำรวม ทั้งกายวาจาและใจ อยู่เกือบตลอดเวลาได้ อย่างไรละครับ ประชาชนต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ ต้องพบประผู้คนมากมาย และพบเห็นเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย จึงทำให้จิตใจ ไม่อยู่กับร่องกับรอย หรือวอกแว้ก ไม่มีสมาธิ อาจจะทำให้ ไม่เข้าใจ ในการดำเนินชีวิตอยู่อย่างคนปกติธรรมดาได้ เช่นผู้ชายที่อยาก จะมีอิทธิฤทธิ์บ้าง วัน ๆก็เอาแต่เข้าวัดเข้า ป่าหาที่สงบทำสมาธิ ทดลองอิทธิฤทธิ์ ต่างๆ นา ๆ ไม่ยอมมาใช้ชีวิต อยู่กับครอบครัวกับลูกกับเมีย หรือบรรดา พวกผู้หญิง ก็มัวแต่ไปหลง พระรูปนั้นอยู่ วัน ๆ ก็อยากจะเห็นท่านแสดง อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้ดู ไม่ยอมมาอยู่ กับลูกกับสามี จะกลายเป็นปัญหา ครอบครัวไป ทำให้ครอบครัว ต้องแตกแยกทางกัน กลายเป็นปัญหาสังคมไป หวังว่าท่านคงเข้าใจในข้อนี้นะครับ .....

▬ ข้อที่สอง ข้อนี้ก็เป็นการขยายความของข้อที่หนึ่ง อีกนั่นแหละครับ ก็ผมเล่าทิ้งค้างเอาไว้ว่า เราไม่ได้เรียน มาทาง เดียวกัน หากจะให้อธิบายเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ให้ฟัง และเข้าใจได้ดี นั้นมันเป็นเรื่องยากมาก หากท่านไม่ได้ ปฏิบัติตาม ถูกหรือไม่ครับ? ก็หมายถึงว่าเราไม่ได้เรียนมาทางเดียวกัน ไม่ได้ปฏิบัติตัว มาทาง เดียวกัน จึงทำให้เรา เหมือนกับพูดกันคนละเรื่อง แต่พูดภาษาเดียวกัน เพียงแต่ว่าไม่เข้าใจกัน หรือเหมือนกับ คุยกันคนละภาษา นั้นแหละครับ ท่านลองดูพระสงฆ์บางรูปซิครับ ขนาด เดินตามรอยพระพุทธองค์ แล้วนะ แต่ท่านก็ยังไม่สามารถปฏิบัติตัวได้ ตามที่พระพุทธเจ้าท่านกำหนดไว้เลยครับ จึงไม่สามารถบรรลุธรรมชั้นสูงได้ ยังต้องเป็นแค่พระสงฆ์ธรรมดาอยู่ จริงหรือไม่ครับ ? และนับประสาอะไร กับพวกเราท่านทั้งหลาย ที่ยังเป็นปุตุชนคนธรรมดาอยู่ จะปฏิบัติตัว ให้ได้เห็นอิทธิปาฏิหาริย์ เห็นนางฟ้าเทวดาได้ ถอด จิตวิญญาณ ได้จริงหรือไม่ครับ ? หากท่านถามผมว่าผมเล่าเรื่องนี้ทำไม ? ผมก็จะตอบท่านว่า ก็เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ นั้นมันมีจริงนะซิ ทุกคนสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ แต่จะทำได้แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่อง ของท่านถูกต้องหรือไม่ครับ เพราะข้อความด้านบนนั้น ผมได้อธิบายไปแล้ว ไม่ใช่หรือ? หากท่านถามผมว่า แล้วผมทำได้ไหม ? ผมก็ต้องตอบ ท่านว่า ไม่ขอบอก และทำให้ท่านอาจสงสัย อีกว่าทำมัยไม่บอกละ ? ก็เพราะว่า ถ้าผมตอบว่า ทำได้ ท่านก็จะมี คำถามมา ให้ผมตอบไม่ได้หยุดหย่อน นะซิครับ จริงหรือไม่ครับ ? และผมก็อาจจะกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ แล้วแต่ท่านทั้งหลาย จะยกให้ผมเป็น หุ หุ

▬ ผมเคยบอกทางให้ท่าน ทั้งหลายไปแล้ว หลายครั้ง แต่ท่านอาจจะไม่ได้สนใจเอง เลยไม่รู้ในสิ่งที่ ผมเขียน มาแล้ว ผมจะเท้าความอีกทีนะครับ ผมเคยให้ท่านไปอ่านหนังสือสามเล่ม ยังจำกันได้หรือไม่ครับ ? เมื่อท่าน อ่านเล่มที่หนึ่งแล้ว (มิลินทปัญหา) ท่านจะสามารถแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้ แล้วท่านก็มาอ่านเล่มที่สอง (วิมุตติมรรคหรือวิสุทธิมรรค) พอถึงเล่มนี้ จะมี วิธีแพ่งกสิญจน์ สิบอย่าง สิบชนิด สำหรับคนสิบประเพศ พระพุทธองค์ท่านแยกแยะ จริตของคนเราออกได้เป็น สิบจริตด้วยกัน เพราะคนเรานั้นชอบอะไรไม่เหมือนกัน หากท่านมีเวลาท่านลองทำตามดูซิครับ แค่เปลี่ยน จากแพ่งดิน มาเป็น แพ่งหิน และอัญมณี ต่าง ๆที่ท่านมี อยู่นั้นแหละครับ สิ่งที่ท่านต้อง การมันก็จะเกิดเองแหละครับ และหากท่านจะรักษาสิ่งที่ท่านได้มาแล้ว ให้อยู่กับท่านตลอดไปนาน ๆ ท่านก็ ต้องอ่านหนังสือเล่มที่สาม ครับ (มงคล 38 ประการ) แล้วปฏิบัติตัว ให้ได้ตามนั้น ท่านก็จะอยู่ได้อย่างคน ปกติธรรมดา อยู่กับลูกกับเมีย กับสามี ได้หากท่านไม่ไปยึดติดอยู่กับสิ่งนั้น เอาแค่ ปฏิบัติเพื่อให้รู้ก็พอครับ หา ไม่แล้วท่านจะต้องเขาวัดไปบวชนะครับ

▬ ในเว็บนี้มีแต่สาวสวยหนุ่มหล่อ หากไปบวชกันหมดเดียวพระกับชี ท่านก็จะเดือดร้อนซิครับ ฮิ ฮิ อยู่แบบผม อย่างนี้ดีกว่าครับ (ยังกินเบียร์ได้ อึ๊ก อึ๊ก) ผมอุส่าบอกใบ้ให้ คนบางคน ไปโกนหัวเข้าวัดปฏิบัติธรรม แพ่งกสิญจน์แล้วนะ จะได้มานั่งตอบปัญหา ให้ท่านทั้งหลายได้ เพราะเห็นว่า ความรู้ของบุคคลท่านนี้ นั้น มีพื้นฐานเข้าท่าดี แต่ดูถ้าท่าน จะไม่เข้าใจ เสียแล้วละซิ เมื่อคืนผมลองนั่งสมาธิเข้าญาณดู เห็นท่านไปหลง รูปรส กลิ่น เสียง เสียแล้วละ ( ผมคงไม่เอ่ยชื่อใครให้โดนด่าอ ีกแล้วละครับ และหากผมจำชื่อได้ไม่หมด เดี๋ยวคน ที่ไม่มีชื่อ จะน้อยใจเอา) ฮือ ฮือ ต้องหาคนใหม่แล้วละ ท่านทั้งหลาย เอ๋ย

▬ ฝ่ายผู้หญิงผมก็ว่า พื้นฐานความรู้ของคุณน้ำผลไม้นั้นก็เข้าท่าดี น่าจะอ่านหนังสือสามเล่มนั้นได้ จบ แต่เมื่อเข้าญาณดูเห็นเธอ ไปหลงไหลอยู่กับวัตถุ จนเงินทองร่อยหรอแล้ว ก็ยังไม่เห็นสิ่งมหัศจรรย์ เกิดขึ้นกับ วัตถุนั้นเลยซิ แถมยังนอนหลับ ทับหนังสือพระใส่หมวกอีก และหลับฝันไปเสียตั้งแดนไกลเชียว ส่วนคนอื่น ก็มัวแต่ส่งจดหมายอีแมว เอ๋ยอีเมล์ ต่อว่า ผมอยู่นั่นแหละ เลยไม่มีเวลากลั่นกรองตัวหนังสือ ฮือ ฮือ น่าน้อยใจ ฮึ อย่าเสียใจซิเรา ใกล้จะ เมาเบียร์แล้ว มีอีกเรื่องหนึ่งเกือบลืมอธิบาย งั้นอธิบายเลยดีกว่า ต่อไปนี้ขอให้ท่าน อ่านช้า ๆ นะครับแล้วจะเข้าใจ หากไม่เข้าใจแล้วเดียว จะมาโกรธกันแย่ เลยหนาาาาา

▬ ตอนที่แล้วที่ผมได้เล่าไป อาจจะมีบางคน ที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไม ผมเอาหินพลอย ไปฝังดินไว้เพื่อให้ เขาไปเกิดใหม่ด้วย ท่านอาจจะนึกว่า ทำไม ผมไม่เอามา ร้อยเป็นสร้อยข้อมือ หรือนำมาทำ เครื่องประดับขายล่ะ? ตอนที่ แล้วผมไม่มีเวลาอธิบายให้ท่านเข้าใจ ครั้งนี้ผมจะเขียนอธิบายให้ท่านทั้งหลายเข้าใจนะครับ หินพลอย ที่ผมเอาไปฝังดินนั้น มีหลายแบบครับ และเป็นพลอย หลายชนิดครับ แต่ไม่สามารถนำ มาทำเครื่องประดับได้ครับ เช่นมันเล็กเกินไป หรือแตกร้าวจนไม่สามารถนำมาทำเครื่องประดับได้ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะครับ ตอนผมไปซื้อพลอย ตามเหมืองพลอย หรือตามบ้านของชาวบ้านที่เขา หาพลอยมาขายนั้น เขาจะเก็บเศษพลอย หรือเศษแร่ทุกชนิด ขึ้นมาด้วยครับ แล้วก็นำมาเลือกเอาคัดเอา เม็ดพลอยที่คุณภาพดี และทำเครื่องประดับได้ จะนำไปเจียรไนย ขายครับ และเขาจะเรียกว่าพลอยครับ ส่วนแร่อัญมณีที่มีตำหนิ และเนื้อยังไม่แก่จัด ไม่สามารถนำมาเจียรไนย ให้เป็นเนื้อพลอยนั้น และก้อนใหญ่ๆ เขาจะขาย ไปให้กับ ร้านที่ทำเครื่องประดับ หินสีเหมือนที่ท่านกำลังทำ อยู่นี่แหละครับ

▬ และยังมีอีกส่วนหนึ่งเป็นแร่อัญมณีเหมือนกัน แต่เม็ดเล็กมาก ไม่สามารถนำมาเจียรไนยทำ เครื่องประดับได้ เขาจะนำไปรวมกับพลอยที่แตกๆ เป็นเศษเล็กเศษน้อยขายไปให้กับพวกที่เขา เผาพลอยครับ พวกที่เขาเผาพลอย เขาจะนำไปหลอมใหม่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน และได้ก้อนใหญ่ๆ ออกมาจากเตาเผายังงัยละครับ หากเผาหรือหลอมได้ สวยมาก เขาก็จะขายได้ราคา แต่จะขายเป็นของจริงหรือของเทียมนั้น ก็เป็นเรื่องของเขาครับ หรืออาจจะขาย ออกมา เป็นหินสีครับ ที่ท่านเรียกว่าของเทียม นั่นแหละครับ แล้วยังมีอีกชนิดหนึ่งที่เป็นแร่ เนื้อของแร่ยัง ไม่สามารถเรียกว่า แร่อัญมณีได้ คือคล้ายกับหินอยู่ยังงัยละครับ เนื้อแบบนี้เขาจะนำไปขาย ให้กับโรงงาน อุสาหกรรมต่างๆที่ต้องการแร่ชนิดนั้น ๆ ยังงัยละครับ เช่นแร่คอรันดัม หรือที่คนไทยเรียกว่า ทับทิม ไพลลิน หรือ ซัปไฟร์ ชาวบ้านจะเรียกว่า แร่การุน หรือ กระรุน ครับ แร่ชนิด นี้ ที่ไม่สามารถนำมาทำเครื่องประดับได้ จะมีที่รับซื้อ อยู่หลายแห่งครับ ขนาดแร่เม็ดเล็ก ๆ เท่ากับทรายละเอียดยังขายได้ กิโลละ 5,000 บาทเลยครับ ขายได้ถึงสองที่แนะครับ หนึ่งขายให้กับโรงงานทำกระดาษทราย หรือ หัวขัดหัวเจอะ หรือทำเครื่องมือ เจียรไนยต่าง ๆ นั้นแหละครับ สองนำไปขายให้กับพวกที่ทำโรงงาน หินสีทั้งหลายนั้นแหละครับ มีที่รับซื้ออยู่หลายที่ครับ ไม่เชื่อก็ลองไปที่ตึก จิวเวอรี่ ที่สีลม ชั้นล่างสุดเลย ดูซิครับ เขารับซื้อหินแร่อัญมณี ทุกชนิดเลย (สังเกตในร้านจะมีหินก้อนใหญ่ๆตั้งอยู่ครับ) มีอีกหลายที่นะครับ แต่ตัวผมเองก็ซื้อมาทั้งหมด เลยแหละครับ แต่หินแร่ที่เขาขายกันกิโลละ5000 บาทนี้แหละครับ ที่ผมเอาไปฝังดิน ไว้ไม่ได้นำไปขายให้ กับพวกที่รับซื้อของพวกนี้หรอกครับ แล้วที่นี้ท่านเขาใจผมหรือยังละครับ ?

▬ หากท่านใดเคยเข้าไปเหมืองพลอย หรือเคยไปซื้อพลอยซื้อหิน ตามบ้านที่เข้าทำเหมืองกัน ก็จะสามารถรู้ได้ว่า ที่ผมอธิบายมา นี้ถูกต้องหรือไม่ ผมแค่ป้องกันไม่ให้พวกเขานำมาทำหินสี ของเทียมขายยังงัยละครับ จะได้มีแต่ ของแท้ในตลาดหินส ีและอัญมณียังงัยละครับ หวังว่าท่านทั้งหลายคงเข้าใจผมนะครับ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ท่านทั้งหลาย จะได้สบายใจ หากผมกลับไปเมืองไทยเมื่อไร ผมจะส่ง หินพวกนี้ไปให้ท่านไว้ ที่ Stonelover นี่แหละครับ ผมจะแยกไว้ให้ว่า เช่น ทับทิม ไพลลิน ผลึกจากธรรมชาติเป็นแบบไหน แบบไหน เรียกแร่การุน แบบไหน เรียกนิหล่า แบบไหนเรียก สตรา แบบไหนเรียกพลอยทับทิม แบบไหนเรียกพลอยไพลิน แบบไหน ที่ควรเอาไปฝังดิน ดีไหมครับ ? ท่านจะได้มีของจริง ไว้อธิบายให้ลูกค้าได ้และสมาชิกท่านใด อยากดูอยากศึกษา ก็ไปหาดูที่ท่านได้ ว้าว นี้ผมบอกให้ของแพงเลยนะนี่ ฮิ ฮิ เกือบเมาเบียร์แล้วละ อึ๊ก อึ๊ก อ้าาา ชุ่มคอ เบียร์ คองโกกินแล้ว เรอออกมาเหม็นอย่า บอกใครเชียวละ เอาเล่าถึงไหนแล้ว อ้อ

▬ ท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่าแบบไหน ที่ควรเอาไปฝังดินไว้ แบบไหนที่สามารถนำมา ทำเครื่องประดับได้ จะได้รู้และ ซื้อได้อย่างสนิทใจดีไหมครับ ? ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ชนิดที่ต้องเอาไปฝังดินนี้ ผมมีเป็นกระสอบเลย ให้ท่านไป สักกิโลหนึ่งก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เอ่ แต่ผมทำแบบนี้ประเดี๋ยวน้อง ๆ ที่ศูนย์อัญมณีแห่งชาต ิเขาจะน้อยใจ เอาหรือป่าวหนาาาา ? คงไม่หรอกนิ ? มีพวกร้านค้าเอาไปให้เขาเยอะแยะแล้ว นี่ เอาหินแตก ๆ ไปให้เดียวเขาจะว่าเอา ของไม่ดีไปให้ ของดีละไม่เคยให้ หุ หุ อ้าวเดียวลืมเล่าต่อ ของพวกนี้ตอนแรก ผมก็ซื้อมาใส่ตู้เลี้ยงปลา ครับ ผมเอา หินอัญมณีหลาย ๆอย่าง หลายๆสี มาใส่ตู้เลี้ยงปลา เพราะหินพวกนี้เขา ก็ชอบอยู่กับน้ำ หินบางชนิดก็ทำให้ปลาตายได้เพราะมีสารเคมีออกมา ตอนแรกผมก็ขำอยู่ในใจ และนั่งหัวเราะ อยู่คนเดียว กะจะประกาศศักดาความร่ำรวยแข่งกับพวกผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ว่าตัวข้านี้ขนาดตู้ปลายังเต็มไป ด้วยเพชรพลอยเลย ฮิ ฮิ แล้วผมก็ซื้อเรือเสาเภาไม้ลำเล็กๆ และเรืออีแปะ จำลองเล็กๆ (เรืออีแปะแบบเดียว กับทีตลาดน้ำ ดำเนินสะดวกที่พวกแม่ค้าเขาใสของพายเรือขายกัน) มาสามลำเอาสังกะสี หุ้มด้านนอกครึ่งลำเรือ อย่างดีกันน้ำ เข้ามาในเรือ แล้วผมก็เอาหินสีบ้าง แร่อัญมณีบ้างและเพชรพลอยต่างๆ ให้เรียกรวมให้ได้ว่า เรือขนแก้ว แหวน เงิน ทอง เพชรนิล จินดา ใส้ไปให้เต็มลำเรือเลยครับ ไข่มุกผมก็ใส่เข้าไป แล้วผมก็เอาเรือ ไปลอยทอดสมอ อยู่ในตู้เลี้ยงปลา หันหัวเรือเข้าบ้าน แล้วก็เอาปลาเงิน ปลาทอง ใส่ลงไปเลี้ยงในตู้ปลา แล้วก็เปิดมอเตอร์ปั่นออกซิเจนให้มัน ใส่น้ำให้ลำเรือลอยเด่น เป็นสง่าเหมือนอยู่บนตู้ปลา โอโฮท่านทั้งหลาย เอย พอผมเปิดมอเตอร์ อ๊อกซิเจนเท่านั้นแหละครับน้ำมันก็กระเพื่อมเป็น คลื่น เรือมันก็กระเพื่อมไปมา ปลาเงิน ปลาทองมันก็แหวกว่ายไปมา แล้วพอผมเปิดแสงไฟ ภายในบ้านให้สว่างอีกหน่อยนะ หากท่านมาเจอ ท่านจะต้องร้อง ว้าววว นี้มันเป็นไปได้จริงๆ หรือนี้ ผมนั่งชมความคิดตัวเอง อยู่สามวันเต็มๆ เลยละครับท่าน

▬ ผมคิดในใจว่า นี่ถ้าหากพวก ซิมแสทั้งหลายมาเห็นเข้า จะต้องเอาความคิดนี้ ไปทำให้บ้านพวก ผู้มีอันจะกิน ทั้งหลายแน่ ๆ เลย หากท่านไม่เชื่อท่านลองทำดูซิครับ บนเรือของผมยังเขียนป้ายไว้ด้วยว่า เรือแก้วแหวนเงิน ทอง เพชรนิล จินดามาแล้วจ๊าาา แล้วผมก็หาหลอดไฟ สามสีมาติดไว้ในตูปลาอีก โอ โฮ ท่านเอย ผมแทบไม่อยาก ออกไปไหน จากบ้านมันรู้สึกมีความสุขมากกกๆครับ นี่ผมยังคิดอีกว่าหากผมเลิกทำงานผมจะทำเรือสักเก้าลำ ให้ครบนพรัตน์เลยแหละครับ แต่ตัวผมเองก็ไม่ ค่อยได้อยู่บ้าน ก็เลยไม่ได้เลี้ยงปลาครับ และหากผมเก็บไว้เฉย ๆ ก่อน แร่บางชนิดมันก็จะมีกลิ่นออกมา เต็มบ้านไปหมด บางอย่าก็ใส่ขวดโหลแช่น้ำเอาไว้ครับ พอผมกลับไปบ้าน ก็ต้องเปลี่ยนน้ำให้เขาใหม่ ผมก็เลยเอาเขาไปฝังดินไว้ดีที่สุดเลยครับ หวังว่าท่านทั้งหลายคงเข้าใจมากขึ้นนะครับ และลองทำดูนะครับ แล้วเอาเรือสักลำใส่เงิน ใส่ทองคำลงไปด้วยท่าน จะมีความสุขไม่รู้ลืมเลยครับ แล้วทำไมเขาต้องเอาแร่ ไปเผาด้วยนั้น จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะอธิบายเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่ก็คิดว่าควร จะแยกแยะไว้ ให้ท่านทั้งหลาย ที่ยังไม่เคยทราบได้ทราบไว้บ้างจะดีกว่าครับ และจริงๆ แล้วก็ยังมีอีก หลายวิธีที่เขาจะหลอมแร่ ขึ้นมาใหม่ได้และทำให้สีสวยกว่าเดิมอีก แต่ผมขอเล่าแต่วิธีการเผา ให้ท่านที่ยังไม่เข้าใจ ได้เข้าใจไว้บ้างจะเป็นการดีกว่านะครับ ให้ท่านแยกอย่างนี้นะครับ

..... คำว่า เผาเพื่อหลอมละลาย
..... คำว่า เผาเพื่อให้สีสวยขึ้น
..... คำว่า หุงพลอย ให้สีสวยขึ้น

▬ อธิบาย คำว่าเผาเพื่อหลอมละลาย คือการนำ แร่ หรือ พลอยไปหลอมละลายด้วย ความร้อนที่สูงมาก ๆ ถึงจุด ...............หลอมละลายของแร่ชนิดนั้น ๆ เพื่อนำไปทำประโยชน์ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นหลอมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ...............เพื่อให้ได้ผลึก ที่ก้อนใหญ่ขึ้น แล้วนำไปขายเป็น หิน สี ต่าง ๆ หรือนำกลับมาเจียรไนย ขายเป็นพลอย ...............ใหม่อีกทีหนึ่ง หุ หุ

▬ อธิบาย คำว่าเผาเพื่อให้สีสวยขึ้น คือการนำพลอยก้อนที่ ใสๆ แต่สีไม่สวยไปทำให้สีสวยขึ้น และลบริ้วรอยบาง ...............อย่างในผลึกพลอยก้อนนั้นออกไป เช่นรอยร้าว หรือตำนิภายในเนื้อพลอยก้อนนั้น ๆ การเผาแบบนี้อาจ ...............ต้องใช้ สารเคมีบางอย่างช่วยประสานเนื้อพลอย หรือเพื่อให้สีสวยขึ้น และไม่มีริ้วรอยตำหนิภายใน

▬ อธิบาย คำว่าหุงพลอย ให้สีสวยขึ้น คือการนำพลอยก้อนที่ใส ๆ แต่สีไม่สวยไปทำให้สีสวยขึ้นโดยการใช้ความ ...............ร้อนเหมือนกัน เพราะว่าภายในผลึกพลอยก้อนนั้น มีเชื้อจุดสี ที่สามารถทำให้เกิดสีที่สวยงามทั้งก้อน ...............ขึ้นมาได้ (วิธีนี้ผมอธิบายมากไม่ได้ครับเดียวพวกหุงพลอยทั้งหลายเขาจะว่าผมได้ครับเป็นความลับของ .............. พวกเขาครับ) แต่ผมก็ทำได้นะครับ ฮิ ฮิ แต่ไม่ทำครับ ( ผมใช้แพ่งกสิญจน์ ไฟ (เตโชธาตุ)หลอมละลาย. .............. ด้วยจิตวิญญาณนะ พูดเล่นแต่ทำจริงๆ ฮิ) เท่าที่ผมอธิบายมานี้ท่านทั้งหลายเข้าใจบ้างหรือป่าวครับ ? บางเรื่องที่ผมอธิบายมานี้หาก คนที่เขาอยากจะเผาพลอยเป็น เขารู้เข้าจะดีใจมากนะครับเขาอาจจะรวยเลยก็ได้ หรือพวกที่เผาพลอยเป็นอยู่แล้วรู้เข้าอาจจะด่าผมก็เป็นไปได้นะครับ หรือพวกที่ทำของเทียม รู้เข้าก็อาจจะแช่งผม อยู่ก็ได้นะครับ (คือแช่งให้ผมรวยขึ้นนะฮิ ฮิ) ไม่น่าเล่าเลยอะไรประมาณนั้นแหละครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวพวกเขา ก็เข้าใจเองแหละครับ เพราะผมเล่าตอนเกือบ จะเมาเบียร์แล้ว โอย ตาลายแล้วละ

▬ แล้วที่นี้ท่านทั้งหลายก็จะได้ทำธุรกิจอัญมณีหินสี ได้อย่างสบายใจ อย่างไรละครับ คนที่ซื้อไปใส่เขา ก็จะได้สบายใจด้วยไม่ต้องกลัวว่าได้ของเทียมไป จะได้นำไปรักษาบำบัดได้ถูกต้อง เพราะมันเป็นเรื่องที่ทำได้ ส่วนพวกที่ขายแต่พลอย เล่นแต่พลอยก็จะได้สบายใจ ไปด้วยอย่างไรละครับ ผมเล่ามาถึงตรงนี้ หวังว่าท่านทั้งหลาย คงสบายใจขึ้นแล้วละ ต่อไปผมก็ไม่ต้องมาห่วงเรื่องแบบนี้อีก แม้แต่ แสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ท่านก็สามารถ จะหยิบหินมาทำเองได้ ไม่ต้องมาถามผมเรื่องนี้อีกนะครับ เพราะต่อไป ผมจะเล่าเรื่องอย่างเดียว ไม่ตอบคำถามใคร หากไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะผมกลัวว่า มีบางเรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้ท่านฟัง แต่ก็กลัวว่าท่านไม่เขาใจ แล้วผมก็ต้อง มาอธิบายให้ท่านฟังอีก ยิ่งตอนนี้ผมเข้าไปอ่านในเว็บไม่ได้ แต่ผมก็กลัวว่า หากผมเล่าอะไรออกไป แล้วท่านไม่เข้าใจ นำไปทดลองทำ หรือปฎิบัติในทางที่ไม่ถูกต้อง อาจจะได้รับความเดือดร้อน ได้นะครับ แล้วหากท่านถามผม ผมก็ไม่สามารถเข้าเว็บมาอ่านได้ ผมก็ไม่ได้ตอบคำถามท่าน หากท่านนำไปปฏิบัติผิดพลาดขึ้นมา ผมก็จะกลาย เป็นคนทำบาปไปนะซิครับ เข้าใจผมขึ้นอีกหรือยังครับ ? ( หากท่านใดทำตาม ที่ผมเล่าไปแล้ว ต้องหันหัวเรือ เขาบ้านนะครับ หากหันออกละก็จะไม่เหลือนะครับ เห็นไหมครับผมก็ยังเป็นห่วงท่านอยู่อีกนั่นแหละ)

▬ ผมอธิบายเพิ่มอีกนิดหนึ่งนะครับ ตอนผมมาถึงที่นี้ ได้สองวัน ผมลงไปข้างล่างมี Internet ให้บริการ อยู่ผมเปิด เว็บของท่านได้ (StoneLover.com) แต่อ่านภาษาไทยไม่ได้ พอผมจะขอเอา Font ภาษาไทย ลงเขาไม่ยอม แต่เขาก็ เห็นชื่อเว็บของท่าน และหลังจากนั้นมา เว็บของท่าน (StoneLover.com) ก็ถูกปิดไป ผมเปิดไม่ได้แล้ว หลังจากนั้น ผมก็ ไปเปิด เว็บอื่น ๆอีก เพื่อหวังว่าจะได้ดูข่าวสารบ้านเมืองบ้าง แต่อนิจจา พอผมเปิดเว็บไหนก็แล้วแต่ วันรุ่งขึ้นเว็บนั้นจะถูกปิดทันทีเลย หุ หุ ตอนนี้ผมก็กลัวว่า เว็บของคนไทยจะถูกปิดอีก เลยไม่กล้าไปเปิดดูเลย เอ้าหากคนไทยคนไหนทำเว็บไซต์ขายของให้ต่างประเทศอยู่ หากได้อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ควรรู้เรื่องนี้ไว้บ้างนะครับ ในบางประเทศนั้น เขากลัวท่านจะไปขายของแข่ง กับคนของประเทศเขา หรือมีข้อความ ที่ไปทำลายวัฒนธรรมของเขา หรือบ่อนทำลายประเทศ ของเขาเข้าท่าน ก็จะเสียโอกาสไปนะครับ ก็เป็นได้แค่ค้าขายอยู่แต่ในเมืองไทย นั้นแหละครับ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวง ICT ของเราก็ตามเขาไม่ทัน อยู่ใกล้ๆ จะตบให้แว่นหลุดเลย เว็บที่จดทะเบียนการค้าแล้วก็หน้าจะทำโลโก ของทั้งสองกระทรวงมารับรอง และมีการประสานงาน ไปกับหน่วยงานต่างประเทศ ว่าเว็บไหนบ้างค้าขายอะไร ไม่ได้ไปทำลายวัฒนธรรม หรือมีข้อความที่ไม่เหมาะสม ไปทำร้ายจิตใจของประชาชนในบ้านเมืองของเขา หรือจัดตั้งสมาคม หน่วยงานขึ้นมาดูแล ผู้ที่เข้ามาค้าขายของผ่าน เว็บไซต์

▬ และผมก็ต้องขอโทษเว็บของพลอยเมืองจันทบุรีทั้งหลายด้วย ผมมาเปิดดูเว็บของท่านในประเทศนี้ พอวันรุ่งขึ้น มาเปิดดูใหม่ก็โดนปิดไปแล้วครับผม โฮ โฮ เสียใจด้วย ตอนผมอยู่ที่พม่า ผมเปิดเว็บของสนุก ดอทคอม อ่านพอวันรุ่งขึ้น เว็บของสนุกก็ถูกปิดไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังปิดอยู่แต่เว็บของท่าน (StoneLover.com) ไม่ได้ถูกปิด หรอกครับ ผมใช้อำนาจบางอย่างครอบงำ ประเทศนี้อยู่ครับ ฮิ ฮิ เปิดกรุงโรมมิ่ง เมื่อไรผมก็ใช้โทรศัพท์ฟรีไปทั่ว โลกเลยแหละ แห่ อินเตอร์เน็ทที่ติดต่อท่านอยู่ก็ใช้ฟรีละครับ หุ หุ ท่านรู้ว่าผมเป็นใครรรแล้วจะหนาวววว ด้วย แหละ ( พูดเล่นล้าาาาาาแต่เรื่องจริงนะ) เอ๊กกก ว่าาาา เริ่มเมาแล้วละ ใกล้จะง่วงนอนแล้วละ เล่าเรื่องอะไรออก ไปบ้างหว่าเนี่ย เดี๋ยวขอกลับขึ้น ไปอ่านก่อนนะ โอ้เล่ามาก็ยาวมากแล้วนะเนี่ย อ่านจบก็จะหลับแล้วนะ ชักเริ่มฝันเห็นดาวแม่ลูกไก่ หรือดาวแม่ลูกอ่อนแล้วละ มามะ ฉันจะกล่อมลูกให้นะ

▬ ฮะ แอ้ม ฮะ แอ้ม เขย่าลูกคอหน่อย เบียร์มันขื่นคอ เฮอาะ เฮอาะ
.......... สองมือประครองลูกน้อย
.......... อาบน้ำทาแป้งแต่งตัวให้นอน
..........หยิบสายสิณจน์ขาวยาวเท่าคืบ
..........มา มะ แม่จะรับขวัญให้แก้วตา
......... โอ้ มาเถิดหนาแม่มาแม่สื่อจ๋า
..........ตัวฉันมีลูกน้อยคอยงอแง้
..........ยกให้แม่กล่อมเห่ใหัหลับนอน
..........แม่จงมารับขวัญลูกฉันหน่อย
.... .... ว่าแล้ว เอาสายสิณจน์ขาวผูกข้อมือขาวให้ลูกน้อย เอื้อนว่าจาเอ่ย รับขวัญใจยึดมั่นถึงแม่สื่อ และแม่ตัว (คือแม่ทูนหัว) หากป้อนน้ำจงนึกถึงพระแม่คงคา หากป้อนข้าวคำแรกจงนึกถึงพระแม่โพสพ เท้าแรกลงดินนึงถึงพระแม่ธรณี จะจากใกลแต่ละที่จงออกปากฝากแม่นม ให้ช่วยดูแล เจ็ดแม่ เจ็ดวัน รวมตัวเอง จำไว้หนาาา .....แล้วเอ่ยว่า
..........ขอแม่สื่อจงรับเลี้ยงอย่าได้เหงา
..........ลูกของฉันลูกของแม่ช่วยดูแล
..........อย่ารังแกให้ตกใจให้โยเย
..........ให้ว่านอนสอนง่ายหลับสบาย
..........ถึงคราวเล่นๆด้วยจงช่วยสอน
..........กล่อมให้อ้อนเป็นเด็กดีที่น่าชัง
..........ยามฉันหลับแม่จงเป่าเฝ้าถนอม
..........ลิ้นอย่าไต่ไรอย่าตอมประครองนม
...... …ต่อไปกล่อมลูกเองนะ ให้พ่อเห่ ให้แม่กล่อมให้นะ ใส่ทำนองเองนะ

......... เห... เฮ เฮ.. เห เฮ่.. เฮ เฮ.... นอน นอน นอน แม่จะกล่อมให้เจ้านอน
..........หือ...ฮือ ฮือ..หือ หือ ฮือ ฮือ.... นอน นอน นอน แม่จะกกให้เจ้าอุ่น
..........หือ...ฮือ เฮ เห .. เห่ เฮ เฮ.... โอ...โอ่ โอ...โอ้ โอ่ โอ โอ.....
......... เห... เฮ เฮ.. เห เฮ่.. เฮ เฮ.... ถ้าเจ้าหิวนมแม่จะให้เจ้ากิน
..........หือ...ฮือ ฮือ..หือ หือ ฮือ ฮือ.... เจ้าอยากดื่มน้ำแม่จะขอคงคา
..........หือ...ฮือ เฮ เห .. เห่ เฮ เฮ.... หากเจ้าหิวข้าวแม่จะอ้อนโพสพ
......... เห... เฮ เฮ.. เห เฮ่.. เฮ เฮ.... เมื่อเจ้าก้าวเดินแม่จะกราบธรณี
..........หือ...ฮือ ฮือ..หือ หือ ฮือ ฮือ.... ยามแม่หลับไปแม่จะวอนแม่สื่อ
..........หือ...ฮือ เฮ เห .. เห่ เฮ เฮ....หากต้องอยู่ไกลแม่จะฝากแม่ทูนหัว
..........หือ...ฮือ เฮ เห .. เห่ เฮ เฮ.... โอ...โอ่ โอ...โอ้ โอ่ โอ โอ.....

.....รำพันว่า

.....เปลก็แกว่งปากก็กล่อม .........อยู่ใกล้ๆไม่หายคลายสายตา
.....หลับเถิกหนาอย่ากวนแม่..........พ่อเจ้าเห่แม่จะกล่อมคอยดูเจ้า
.....แม่จะร้อยหินสวย ๆได้ช่วยพ่อ .....พอเป็นทุนหนุนค่านมยามเจ้าหิว
.....จะเก็บออมถนอมไว้ใช้เป็นทุน.....เมื่อเจ้าโตเจ้าจะได้ไม่ขัดสน

.....ว่าแล้ว

.....หยิบสีแดงปทุมมา มาเป็นเอก
.....แก้วสดใสข่ามนามตามเป็นสอง
.....เหลืองเรืองรองเหลือเงินทองร้อยตามกัน
.....เขียวขจีมณีแก้วแคล้วโรคา
.....ชมพูผ่องนวลเนื้อเชื้อผู้ดี
.....น้ำเงิน ก่ำล้ำเดชาพาโชคชัย
.....ส้มสีสรรพ์ประชานับรับภิวันทน์
.....ฟ้าภิรมย์อร่ามรัตน์จรัสฉาย
.....ม่วงลึกลับอำนาจล้นพ้นโพยภัย
.....ร้อยเป็นสร้อยเส้นงามฉ่ำฤทัย
.....ทั้งเก้าสีพูลสวัสดิ์วัฒนา
.....ร่ำเรียงร้อยคอยแก้วตาพาชื่นชม
.....โอ้ลูกจ๋า แม่จำรูญนพรัตน์งดงามตา
.....ถึงผู้ใดได้เป็นเจ้าเข้าครอบครอง
.....ป้องวิบัติขจัดพ้นล้นฤดี
.....แม้นเป็นหินมณีสีก็มี วลี วจี ใจ

...ร้อยไปกล่อมลูกไปเดียวเขาก็หลับเองแลหนาาาาาาา ฮิ ฮิ ฮิ

..................................ฉันก็คิดถึงแม้ของฉันบ้างแล้วละ

.....ด้วยกำเนิดเกิดในถิ่นแผ่นดินไทย..........ถึงอยู่ไกลใจก็หวงเป็นห่วงแม่
.....ค่าน้ำนมฉ่ำกายได้เติบใหญ่.........ค่าน้ำคำคอยพร่ำสอนวอนคนดี
.....เมื่อยังเล็กเด็กตัวน้อยคอยหาแม่.........ร้องงอแงแม่ต้องปลอบกอดให้ด้วย
.....ตักอุ่นๆได้หนุนดูดนมชมหน้าแม่..........พ่องัยงอนค้อนว่าแม่แลแต่เจ้า
.....เหม่อมองฟ้าแม่จันทราแสงนวลฉาย..........ขอจงช่วยส่องดวงใจไปถึงแม่
.....แสงนวลน้อยร้อยดาราต่างมาลี..........คล้องดวงใจให้แม่ฉันหลับฝันดี

.....................แด่แม่.....คนหาพลอย .....5/8/04

▬ ..นอนแหละหนาตอนหน้าจะพาไปเทียว คิดถึงทุกๆท่านเสมอครับ ...( แม่จ๋าลูกโตแล้ว หากมีเมียลูกจะนอนดูดนมเมีย ฮิ ฮิ ฮิ )...

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1584