อาถรรพ์ของพลอย ภาค 19

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ สวัสดีครับ ปกติวันเสาร์ตอนเช้า ผมจะขับรถออกจากบ้าน ในกรุงเทพฯ ประมาณแปดโมงเช้า ขับรถไปผมก็จะเปิดวิทยุฟัง ท่านนายกทักษิณคุยกับประชาชน ไปด้วยฟังว่าท่านจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ท่านทำอะไรบ้าง และเป็นประโยชน์กับผมมาก เมื่อก่อนเวลาไปต่างประเทศ เขาถามผมว่ามาจากไหน ? ผมบอกว่ามาจากประเทศไทยครับ ผมรู้สึกว่าเขาไม่เคยให้ความสำคัญผมเท่าไร

▬ แต่เดี๋ยวนี้ เวลาผมไป เขาเห็นเป็นคนไทย เขาก็จะรีบเขามาทักทาย ให้ความสำคัญผิดปกติ บางคนก็ถามถึงในหลวงของเรา ว่าคนไทยนี้โชคดีนะ มีพระเจ้าแผ่นดินช่วยดูแลทุกข์สุขให้ แล้วยังมี นายกที่เก่งอีก เศษฐกิจก็ ฟื้นตัวเร็วมาก (ผมไม่ได้ยอท่านนายกนะ) ผมมีความรู้สึกว่า เขาให้ความสำคัญ กับเรามากขึ้น เวลาผมประชุม กับพวกคนต่างชาติ เขาจะชอบความคิดของผม อยากให้ผมพูด ในที่ประชุม หากงานมีปัญหาตรงไหนเวลาผมพูดอธิบาย เขาจะฟังและยอมรับ ไม่เหมือนเมื่อก่อน บางประเทศไม่ค่อยยอมรับคนไทย เวลาเราพูดอะไรที ก็มีคนเถียงโต้แย้งอยู่ตลอด เดี๋ยวนี้ผมเลย สบายขึ้นมาหน่อย ค่อยคุยกับพวกคนต่างชาติรู้เรื่อง บางทีผมก็คิดว่ามันก็เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน ผมเลยชอบฟัง ท่านนายกพูด

▬ แต่เมื่อวันเสาร์นี้ ผมมีธุระกลางทางเลยต้องรีบไปแต่เช้า กะว่าจะไปเปิดทีวีช่องห้า ฟังท่านนายกพูด ที่บ้านแม่ ตอนแปดโมงเช้า พอไปถึงผมก็เข้าบ้านไม่ได้ ไม่มีใครอยู่บ้านไปทำธุระกัน นอกบ้าน ผมก็ลืมเอา กุญแจไป เลยต้องนั่งรอพวกเขากลับมาอยู่หน้าบ้าน ตอนนั่งรอก็คิดว่าจะได้ฟังท่านนายยกพูด และคิดว่า พวก อ.บ.ต. หมู่บ้านจะเปิดเสียงตามสายให้ชาวบ้านฟังท่านนายกพูด แต่แปลกไม่ยอมเปิด ผมยังคิดว่า เอ้ อะไรที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้านก็หน้าจะทำ แต่ไม่ทำ หรือมันยังเช้าไปยังไม่มีใคร ไปทำงานที่ อ.บ.ต. หรือเป็นวันหยุดวันเสาร์ ไม่มี พวก อ.บ.ต. ไปทำงาน แปลก สำนัก อ.บ.ต. ก็ใหญ่ ยังกับสภา ติดแอร์ อย่างดี แปลกดีผมคิดในใจ ผมดู สำนักงาน อ.บ.ต. บางที่สำนักงานใหญ่กว่า บริษัทบางบริษัท อีกครับ หากมีผู้บริหารดี ๆมีความรู้ เข้าไปบริหารจัดการภายในหมู่บ้านได้เลยนะครับ Internet ก็มีแล้ว Computer เครื่งถ่ายเอกสาร มีหมดแล้ว น้อง ๆ ตัวอำเภอเลย หน้าจะทำอะไรได้มากกว่านี้นะ

▬ อีกเรื่องหนึ่งนี่ก็แปลกอีก ช่วงค่ำ ๆ ของเย็นวันเสาร์ มีชาวบ้านแถวนั้นมาหาแม่ผมที่บ้าน มาขอยืมเงิน บอกว่าจะเอาไปให้ลูก ๆ เขาไม่พอใช้ ผมคิดในใจ ลูกเขาคนนี้ผมรู้จักดี มีงานทำในกรุงเทพฯ เงินเดือน ก็เป็นหมื่นบาท ทำไมมายืมเงิน พ่อแม่ใช้อีก พ่อแม่ก็ทำนา หากินรับจ้างได้ไม่เท่าไร แต่พอมีเงินเก็บบ้าง นิดหน่อย ลูกๆ ก็มาเอาไปอีก แปลกดีคนมีเงินเดือนเป็นหมื่นๆ มายืมคนไม่มีเงินเดือน แต่เขาก็รักลูกนะ ไม่พอให้ก็มาหาหยิบยืมให้ลูก ไม่รู้เอาไปเล่นฟุตบอลหมด หรือป่าวเนีย แต่ก็ยังดีเวลาเดือดร้อน ก็ยังมีพ่อแม่คอยช่วย ยังนึกถึงพ่อแม่ แต่ผมคิดอีกอย่างหนึ่งว่านี้แสดงว่ามีเพื่อนไม่ดี คบเพื่อนไม่ดี หรือตัวเขาเองไม่ดี เพื่อนฝูงไม่สามารถช่วยได้แล้ว เลยมาหาพ่อแม่

▬ ปกติหากคนเราเมื่อออกจากบ้านไป ต้องไปอยู่ตัวคนเดียว หรืออยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับญาติ ในกรุงเทพฯ มีเพื่อนดี หรืออยู่กับคนที่ๆ ดี ๆ สภาพแวดล้อมดี ๆ เวลาพูดคุยกันก็พูดแต่เรื่องดี ๆ ที่ทำให้เกิดปัญญา เกิดความรู้ ผิดชอบชั่วดี รู้อะไรควรอะไรไม่ควร ก็จะไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง การคบเพื่อนนี้ผมเองระวังมาก หากอยู่ในกลุ่มที่ชอบกินชอบเที่ยว ผมยิ่งต้องคอยควบคุมตัวเอง ให้มากที่สุด บางคนก็เห็นแก่ตัว เป็นที่สุดแค่คำพูดคำจาก็เอาเปรียบแล้ว ผมจะพยายามอยู่ให้ไกล กับเพื่อนกลุ่มนี้ ไม่แนะนำที่เที่ยวที่กินให้ แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ดี ๆ อากาศดี ๆ ผมยังไม่บอ กพวกเขาเลย กลัวพวกเขาไปตั้งวงกินเหล้ากันอีก ส่วนกับเพื่อนดี ๆ ผมก็จะแนะนำแต่สิ่งดี ๆ ให้ ไม่เคยแนะนำ ในสิ่งที่ทำชั่วเลย

▬ ตอนผมยังเรียนหนังสืออยู่ ก็มีเพื่อนผู้ชายมา ขอให้ผมช่วย ว่าเขาไปทำเพื่อนผู้หญิงท้อง จะไปทำแท้งกัน แต่หาหมอทำแท้งไม่ได้ จะให้ผมช่วยหาให้ พอเขาบอกผม ๆ บอกเขาว่า ไปหยุดเรียน ก่อน แล้วรอจนลูกคลอด แล้วเอาลูกมา เดียวผม จะเอาไปให้แม่ผมเลี้ยงให้ แล้วผมก็ไม่ยอม พูดอะไร กับเขาอีก อยู่ ๆมาเขาก็มาหาผมอีก บอกผมว่าเจอหมอแล้ว จะมายืมเงินผมเอาไปจ้างหมอทำแท้ง ผมไม่ยอมให้ยืม เขาโกรธผม จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เคยพูดกับผมเลย ผมรู้มาว่าหากใครทำแท้งปาบนี้ ใหญ่หลวงนัก ผมไม่สนับสนุนใครทั้งสิ้น

▬ บางครั้งผมอยู่ต่างประเทศ ต้องไปอยู่กับพวกคนไทยด้วยกัน ในประเทศที่ยากจน ผมเห็นพวกเขา ชอบมีแฟนในประเทศนั้น ได้เขาแล้วก็ทิ้ง ไม่ค่อยรับผิดชอบ ชอบกินเหล้าชอบไปเที่ยวผู้หญิง แล้วบางครั้ง มาชวนผมอีก ผมไม่ไปด้วยก็ มาว่าผมโง่ ผู้หญิงที่นี่ถูกด้วย สวยด้วย ไม่เอา แต่ผมสังเกต อยู่อย่างหนึ่ง เวลาพวกเขาเดือดร้อนเรื่องเงินต้องมาหาผมทุกที นี่แหละครับหากใครมีเพื่อนที่ดี แนะนำ ในสิ่งที่ดี ๆ ก็จะได้ดี พ่อแม่ก็ไม่เดือดร้อน เพราะรู้ว่าลูกเป็นคนดี หาเพื่อนดี ๆ ได้ ที่ผมเล่าให้ฟังนี้ ก็ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นคนดี อะไรมากนะ คนเกลียดผมก็มี คนรักผมก็มี แต่โอกาสที่ผมทำดี มีมากกว่า โอกาสที่ผมจะทำไม่ดีแค่นั้นเอง ครับ แห่

▬ ผมติดค้างท่านอยู่เรื่องหนึ่ง คือ หิน กับฮวงจุ้ยในบ้าน ผมจะเล่าอะไรให้ท่านฟังก่อน เพราะมันเป็น เรื่องจริง หากท่านไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ท่านอย่าหวังว่า จะแก้ไขฮวงจุ้ยให้ดีขึ้นได้เลยครับ ท่านอาจเสียเงิน อยู่เรื่อยไป กับการแก้ฮวงจุ้ย การจะแก้ฮวงจุ้ยในบ้านนั้นท่านต้อง มั่นใจจริง ๆ ว่าเป็นเพราะ ฮวงจุ้ยในบ้านไม่ดี แล้วท่านอยากจะแก้ให้ดีขึ้น มันอาจไม่ใช่ก็ได้ มันอาจอยู่ที่ตัวท่านเอง ที่ไม่ดีต่างหาก หรือคนในบ้านคนใดคนหนึ่งไม่ดี แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรละ ? ว่าคนในบ้านไม่ดีหรือ ฮวงจุ้ยในบ้านไม่ดี แต่ส่วนใหญ่แล้วทุกคนจะ โทษว่า ฮวงจุ้ยในบ้านไม่ดีทำให้คน ที่อยู่ไม่ดีขึ้น มีเรื่องไม่สบายใจตลอด เงินทองไม่เหลือใช้ ลูกร้องกระจองอแง เลี้ยงยาก ผัวกลับมาก็เอะอะโวยวาย ดุด่าว่า เมีย หรือคนในบ้าน ทำอะไรขวางหูขวางตาไปหมด ลูกเอาแต่เที่ยวกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ เกือบทุกวัน หรือเป็นร้านค้าก็ค้าขายไม่ดี ไม่เคยมีคนเข้าร้าน หรือไม่มีกำไร บ้างคนอยู่บ้านคนเดียว แท้ ๆ เงินไม่ค่อยเหลือเก็บใช้หมด หรือไม่พอใช้ ทำบุญประจำก็ยังไม่มีใช้ ไม่มีเหลือ รู้สึกหดหู่ เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ แล้วมาลงที่ ฮวงจุ้ยในบ้านไม่ดี ต้องหาวิธีแก้ฮวงจุ้ย เสียเงินโดยใช่เหตุครับ บางคน มีเงินฝาก อยู่บ้านหลังใหญ่ กิจการดี แต่ก็มีเรื่องจุกจิกกวนใจ ให้เดือดร้อนอยู่เรื่อย ๆไป ก็โทษฮวงจุ้ยในบ้านไม่ดีอีก บางคนหน้าที่การงานดี แต่งานไม่ราบรื่น ก็โทษฮวงจุ้ย ในที่ทำงานไม่ดี หรือที่บ้านไม่ดี ไปหาหมอดู ไปหาตำรามาดู บางตำราบอก

แก้โหงวเฮ้ง ย้ายที่อยู่ ดูที่นอน
บ้านผิดทิศ ประตูผิดที ครัวผิดเตา
ทางเข้าไม่ถูก ต้องทุบตรงนั้น ต้องทำตรงนี้
มังกรไปเที่ยว เสือขาวเข้าป่า พยาหงส์เล่นน้ำ
เต่าดำจำศีล ว้าววว
มั่วไปหมด แถมไม่ได้ดี เสียเงินเรื่อยเลย ว้า

▬ ผมมีข้อแนะนำ ว่าท่าน อยู่ เฉย ๆ นะครับ แล้วตั้งสติให้ดี
ข้อ 1. ดูว่าตัวท่านเป็นคนอย่างไร ?
ข้อ 2. ดูว่าคนในบ้านและคนรอบตัวท่านเป็นคนอย่างไร ?
ข้อ 3. ดูว่าบ้านท่านเป็นอย่างไรบ้าง สะอาด หรือสกปรก ดูแล้วน่าอยู่หรือไม่ ?
หากสามข้อนี้ท่านดูไม่ออกก็ไม่ต้องไปแก้ฮวงจุ้ยนะครับเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ไปหาอะไรมาตั้งในบ้าน มันก็ไม่เกิดประโยชน์เลย แถมคนในบ้านอาจจะรำคาญเอาอีก เดือดร้อนคนอื่นอีก ประโยชน์ของทั้งสาม ข้อมีดังนี้ครับ

▬ จากข้อที่หนึ่งหากท่านรู้ว่าตัวท่านเป็นคนอย่างไรแล้ว ท่านสามารถรู้ข้อสองได้ หากสองข้อแรกท่านไม่รู้ ข้อสามท่านก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าบ้านท่าน สะอาดหรือสกปรก เรื่องจริงนะ ตัวของตัวเองยังไม่รู้เลยแล้ว ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกันซิ ดูตัวเองไม่ออกแล้วยังจะไปดูคนอื่นเขาอีก หากเป็นแบบนี้ในสายตาของท่าน คนอื่นก็ไม่ดีอีกนั้นแหละ พอคนอื่นไม่ดีตานี้ก็อะไร ๆ ก็ขวางหูขวางตาท่านไปหมดแหละครับ หากรอ ให้คนอื่น ทำให้ในสามเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ดังใจท่านหรอกครับ มันก็ไม่ดีอยู่นั้นแหละ หากท่านรู้ว่า ตัวท่าน เป็นคนดี ทำดีตลอดแต่คนอื่น ๆ ต่างหากมาทำไม่ดี หรือทำให้ท่านหงุดงิดตลอดเวลาท่านก็แก้ไขได้ครับ ( เดี๋ยวผมจะบอกว่าแก้อย่างไรนะ เอาไว้ทีหลัง ) หรือท่านอยู่ตัวคนเดียวแต่เงินไม่ค่อยพอใช้ ท่านใช้จ่าย เกินตัวนะซิ หรือคนอื่นมายืมไปทำให้ท่านเดือดร้อนก็แก้ได้ครับ

▬ ทีนี้คนรอบข้างบ้างละ หากลูกท่านใช้เงินเก่ง กินเก่ง เอาแต่ใจตัว หรือ เมียขี้บ่นขี้น้อยใจ หรือผัวชอบ ดุด่าพูดคำก็ตะคอกที หรือใครคนใดคนหนึ่งชอบเล่นการพนัน อย่างนี้ก็แก้ได้ครับ

▬ ที่นี้ภายใน บ้าน ท่านละ ท่านรู้ข้อ หนึ่งและสองแล้ว ที่นี้ข้อสาม ดูเหมือนง่ายแต่อยากนะ เช่นท่านเป็นคน ชอบสะอาด เก็บกวาดบ้านเป็นประจำ เห็นอะไร ลกหู ลกตาก็เก็บกวาดให้เรียบร้อย แต่คนอื่นชอบทำสกปรก อยู่เรื่อยเลย เป็นเรื่องที่ท่านไม่ชอบเลย แบบนี้ก็แก้ได้ครับ ( เอาไว้แก้ทีเดียวนะครับ)

▬ ส่วนคนที่ทำธุรกิจ ผิดกฎหมาย ค้าขายเอาเปรียบชาวบ้าน เป็นคนไม่ดี เป็นคนพาล พระพุทธองค์ ท่านตรัสไว้ว่า อย่าไปสอนคนพวกนี้ คนพวกนี้สอนไม่ได้ดี เขารู้ไปก็นำไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีก ผมจะยกตัวอย่าให้ท่านฟังนะครับ เช่นหากคนไม่ดีรู้เรื่องตำราฮวงจุ้ย คนพวกนี้ก็นำตำรานี้ ไปทำนาย ทายทักคนอื่นๆ ที่ตกทุกข์ อยู่ให้ได้รับความเดือดร้อนอีก ต้องเสียเงินอีก ให้กับคนพวกนี้ ผมจะบอกให้ ตำราทำดีให้ได้ดี หรือตำราทำคนให้เป็นคนดี นั้นเขาไม่คิดเงินกันหรอกครับ คนดีทำอะไรแล้ว จะไม่กลัว อดตายครับ แต่มีวิธีทำนะเอาไว้จะบอกทีหลัง

▬ ผมยกตัวอย่าง เกี่ยวกับตัวท่าน และสิ่งรอบตัวท่านรวมทั้งบ้านท่านให้ฟังแล้ว ทีนี้มาดู และมารู้จักกับ สิ่งลึกลับที่ท่านไม่รู้ แต่ท่านกลัวกันบ้างครับเช่น ผี พอพูดเรื่องผีท่านก็กลัว ท่านเชื่อหรือไม่ครับ ว่าผีนั้น ท่านบอกเขาให้เขาทำดี นั้นง่ายกว่าท่านบอกคนชั่วให้ทำดีอีกครับ ท่านเชื่อหรือไม่ว่าผี ที่ท่านคิดว่าชั่วร้าย ที่สุดในโลกนี้นั้นไม่ว่าจะชาติใดศาสนาใด เขากลัวอะไรมากที่สุดครับ

▬ ผมจะบอกให้ กลัวคนดีครับ ผีร้ายทำอะไรคนดีไม่ได้หรอกครับ แล้วถ้าผีในบ้านท่านละครับ เช่นผีปู่ย่า ตายาย หรือบรรพบุรุษ ผีเจ้าที หรือพระภูมิ พวกนี้เป็นผีดีครับ เขาคอยคุ้มครองพวกท่าน ไม่ว่าท่าน จะอยู่ที่ใดในโลกนี้ เขาเป็นห่วงพวกท่าน บางบ้านไม่มีผีพวกนี้ก็ยังไปเชิญเขามาอยู่ เอาเขามาอยู่แล้ว ก็เลี้ยงเขาไม่ดี บางทีก็ไม่ให้ความเคารพเขา ๆ ก็โมโหเอาแกล้งเอาบ้างก็มี แล้วผีรอบ ๆ บ้านท่านละ หรือผีบ้าน คนอื่นละ หากท่านไปนินทาชาวบ้านไว้มาก หรือไปทำให้คนข้าง ๆ บ้านท่านเดือดร้อนอะไรไว้ ผีที่คอยคุ้มครอง บ้านนั้นอยู่ ก็จ้องเอาเรื่องท่านอยู่แหละครับ ท่านดวงตกวันไหน ผีพวกนี้ก็จะมาเยี่ยมท่าน แหละครับ ที่นี้ก็ผีบ้านท่านกับผีบ้านคนอื่นทะเลาะกันแหละครับท่านก็จะเดือดร้อนแหละ คนที่ชอบ ทำคนอื่นเดือดร้อน หากคนที่เขาเดือดร้อน มีผีคอยคุ้มครองอยู่ ท่านก็ต้องระวังแหละครับ ท่านไป เอาเปรียบเขาไว้ บาท หนึ่ง เวลาท่านโดนคนอื่นเอาเปรียบท่าน จะเสียร้อยกับหนึ่งบาทเลยทีเดียว คือร้อยเท่าครับ บางบ้านผมเข้าไป ผีปู่ย่า ปรากฏตัวให้ผมเห็น ผมถามว่าทำมัยไม่ไปเกิดละ ? เขาบอกว่า เป็นห่วงหลาน มันยังเล็กอยู่ แม่มันก็เอาแต่เล่นไพ่ พ่อมันก็เอาแต่กินเหล้า กลัวหลานจะเป็นอย่างพ่อแม่ ของมัน เห็นไม่ครับ ผีท่านไม่คุ้มครองคนไม่ดีหรอกครับ ( เอาไว้ผมจะบอกวิธีการดูผีในบ้านท่านให้นะครับ ผมกลัวว่าท่านจะกลัวเกินไป ) วันก่อนผม เผลอไปเล่าให้ท่านนอนคุยกับผีให้ท่านรู้ เดียวท่านนอนไม่หลับอีก เรื่องผีนี้ก็มีวิธีแก้ครับ ( เดียวเอาไว้แก้ทีเดียวนะครับ )

▬ มาดูเรื่องวัตถุอาถรรพ์ กันบ้างครับ และต้องดูว่ามันเกิดอาถรรพ์ขึ้นมาได้อย่าไร มันมีอาถรรพ์ด้วย ตัวมันเอง หรือมีใครทำให้มันเกิดอถรรพ์หรืออำนาจขึ้นมา วัตถุที่มีอาถรรพ์ หรือมีอำนาจในตัวมันเอง โดยที่ไม่ต้องมีใครไปปลุกไปเสกหรือไปทำให้มันเกิดอาถรรพ์หรืออำนาจขึ้น ก็มี พวก อัญมณีต่าง ๆ ครับของพวกนี้มีดีมาตั้งแต่เกิดครับส่วนจะเป็นอาถรรพ์หรืออำนาจอะไรนั้น ถ้าจะให้อธิบาย คงใช้เวลา เป็นปีครับ ส่วน พวกเทวรูป และรูปเคารพต่าง ๆ พวกนี้จะมีอาถรรพ์ในตัวเอง เหมือนกัน ครับ ตามรูปที่ช่าง ทำขึ้นมา เมื่อช่างทำเสร็จ หรือปั้นเสร็จ ก็มีอาถรรพ์ เกิดขึ้นแล้วครับ ส่วนอาถรรพ์ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นรูปอะไร ยิ่งช่างที่ทำเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรมด้วยแล้ว ยิ่งมีอำนาจมาก แล้วแต่ว่า คนที่ทำนั้นทำขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ใด เช่นปั้นรูปพระพุทธรูปขึ้นมาเพื่อบูชาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจให้ทำความดี นี่ก็มีอำนาจ ความดีมีพระพุทธคุณ เกิดขึ้นแล้ว หากท่านทำตุ๊กตาผ้าเป็นรูปเด็กน่ารักขึ้นมา เพื่อจะเอาไว้โชว์ให้ดูน่ารัก เมื่อท่านทำเสร็จเรียบร้อย ตั้งไว้ที่ห้องรับแขก ใครมาหาท่านมาเห็นเข้า ก็ต้องบอกว่าน่ารักดี สวยดี และนี่ก็คืออำนาจหรือ อาถรรพ์แห่งความสวยงาม ความรัก ที่ดึงดูดใจผู้คน จริงไหมครับ

▬ ส่วนก้อนหิน ก้อนกรวด หรือท่อนไม้ นั้นเป็นวัตถุที่พวกวิญญาณต่าง ๆ ชอบเขาไปจับจองอยู่กัน หากเป็นต้นไม้ก็จะเป็นวิญญาณ ที่สูงกว่าพวกแรก จะ กึ่งเทวดากึ่งผี ครับ แล้วถ้าเป็นวัตถุ อาวุธต่าง ๆละ เช่น ปืน ใหญ่ หอก ดาบ หรือ แม้แต่มีด ที่ท่านใช้ทำครัว ท่านก็ไม่อยากให้ใครเอาสิ่งของพวกนี้ มาชี้หน้าท่าน หรือหันด้านที่มีคม เข้ามาหาท่านไช่ไหมครับ ? เห็นไหมครับว่ามันมีอาถรรพ์ ยิ่งมีวิญญาณ คนตายสิ่งอยู่ในอาวุธพวกนี้ด้วยแล้ว ท่านก็ขนลุกไปทั้งตัวทีเดียวครับ

▬ แล้วสิ่งที่มีอาถรรพ์ และมีอำนาจสามารถสะกดใจ ผู้คนเมื่อเห็นปุบ ก็ต้องหยุดคิด ปับเลยท่านรู้ไหมว่า เป็นอะไร ผมจะบอกให้ ตัวหนังสือ กับตัวเลข ที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้แหละครับ ท่านสามารถปลุกเสกให้ขลัง และมีอำนาจในตัวมันเอง แล้วแต่ความประสงค์ของท่าน เลยแหละครับ ท่านเขียนดีก็ได้ดี ท่านเขียนไม่ดี หรือไปว่าใครเข้า ความไม่ดีก็จะมาหาท่านทันทีเลยจริงไหมครับ ? แต่วิธีเขียนเดียวผมจะบอกที่เดียวนะ ผมอธิบายกว้าง ๆ เพื่อให้ท่านมองภาพรวม ของทั้งหมดออก หากท่านจะยึดตามตำราฮวงจุ้ย เลยนั้น โอ้ โฮ ยากมาก ๆ เลยครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ท่านฟังเรื่องบ้านอีกก็แล้วกัน

▬ ผมอยากถามท่านว่า ทุกวันนี้ เขาสร้างบ้าน หรือสร้างศาลพระภูมิ ให้ท่านอยู่กันแน่ครับ ? บ้านขนาด ที่ดิน 16 ตรางวา นี้ถือว่าเล็กสุดแล้ว แต่ห้องนอน เขาสร้างไว้ขนาด 3 x 3 เมตรเอง ซึ่งไม่ถูกต้อง เวลาท่านเข้าไปอยู่ท่านก็รู้สึกอึดอัดอีก ต้องทุบต้องรื้อ ขยายให้ใหญ่อีก มีการต่อเติมเสียเงินอีก ตอนซื้อก็เสียเงินไปครั้งหนึ่งแล้ว พอเข้าอยู่ได้ไม่นาน ก็เสียเงินอีก ว้า นี่ถือว่าฮวงจุ้ยไม่ดีตั้งแต่ตอนซื้อแล้ว ผมจะบอกท่านให้ครับในต่างประเทศบางประเทศ เขาไม่ยอมให้ประชาชนเขาเป็นหนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก หรอกครับ จะสร้างหมู่บ้านต้องมีคนซื้อครบทุกหลัง ไม่มีการปล่อยให้ทิ้งร้าง ต้องมีคนเข้าอยู่ เวลาเข้าไปอยู่ เฟอร์นิเจอร์หรือแม้แต่เครื่องครัวชุดรับแขก ห้องนอน เตียง ผ้าห้ม มีให้หมดครับ การกู้เงินเป็นหนี้ ทีเดียวครับ ไม่ต้องมาต่อเติมอะไรอีก แม้แต่การปลูกต้นไม้เขาก็จะกำหนดไว้แล้วว่า เจ้าของบ้านจะปลูกต้นไม้ อะไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้บ้านหลังอื่นเขาเดือดร้อน เห็นไหมครับบ้านเมือง ในยุโรปเขาจึงเป็น ระเบียบ และสวยงาม ที่ทิ้งขยะก็ต้องอยู่แต่ในบ้านไม่ใช่ไปอยู่นอกบ้าน หรือหน้าบ้าน หรือหน้าปากซอย ภายในหมู่บ้าน จะมี ที่สำหรับทิ้งขยะไว้ให้Z

▬ เรื่องที่ทิ้งขยะนี้ผมชอบใจ ที่ประเทศเยอรมันเมืองมิวนิคมากครับ ไม่รู้ผู้ว่ากรุงเทพฯ ของเราทำมัย ไม่ส่งคนไปดูบ้าง ตามหมู่บ้าน หรือตึกแถว เขาจะทำที่เอาไว้ให้รถขยะมาจอดเอาถังขยะไป ท่านเคยเห็น รถน้ำมัน มัยครับ ถังแบบนั้นแหละครับ เขาเอาไปวางไว้ แล้วทำเป็นสามช่อง สำหรับใส่ ขยะแต่ละชนิด เช่นขวดแก้ว ก็ช่องที่หนึ่ง ขยะแห้งก็ช่องที่สอง ขยะเปียกก็ช่องที่สาม มีฝาเลื่อนปิดเปิดอย่างดีเลยครับ ไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เหมือนบ้านเรา แล้วมี วีดีโอ วงจรปิด เอาไว้ตรวจดูเวลามีคนมาทิ้งขยะ จะเห็นหมดเลย หากใครไม่แยกขยะก่อนทิ้งก็จะมีความผิด ใครมาทิ้งอะไรแยกขยะ ให้หรือไม่แยก เวลาถังขยะเต็มเขาก็จะรู้ เขาก็เอารถวิ่งมาเปลี่ยนถังให้ หากเป็นหมู่บ้านใหญ่ ๆ ก็มี ถึงสามหรือสี่จุด จะไม่มีมากกว่านี้ ครับ ถ้าเป็นหมู่บ้านในประเทศไทยหรือครับ เช่นในหมู่บ้านผมที่ผมอยู่นี้ มีอยู่ยี่สิบกว่าซอย ก็มีถังขยะ อยู่หน้าปากซอยทุกซอยเลยครับ หากถังขยะอยู่ใกล้ร้านค้าก็เต็มทุกวันเลยครับ มีหมาไปตะกุย เรี่ยราดทุกวันเลย บางบ้านตัดกิ่งไม้ใหญ่ในบ้านก็มาสุมไว้ที่ถังขยะบางทีก็หลายวันกว่าจะมีรถมาเอาไป โอ้แย่ บางบ้านเห็นแก่ตัวต่อเติมบ้าน เต็มทางเท้า หรือเอาหลังคายื่นออกมาจนดูหน้าเกลียด

▬ คนพวกนี้ผมไม่ไปยุ่งด้วยเลย บางที่ผมเห็นหมู่บ้านใหญ่ๆ มีแต่คนรวย ๆ อยู่ แต่ปลูกต้นไม้ ใบไม้ปลิวไปทั่วเดือดร้อนชาวบ้านเขาหมด ไปอุดตามท่อน้ำบนหลังคาบ้าง ปลิวไปหน้าบ้านคนอื่นบ้าง แถมบางบ้านเลี้ยงสัตว์ก็ปล่อยให้ไปทำสกปรกไว้ทั่วหมด บางที่ก็หน้าบ้านคนอื่น บางทีก็สนามเด็กเล่น ว่าไม่อยากพูดแลัว หากยังเป็นแบบนี้อยู่ท่านก็อยู่แต่ในบ้านเถอะครับ อย่าไปยุ่งกับคนพวกนั้นเลย หากมีเงินมากก็ ไปหาที่อยู่ใหม่เถอะครับ

▬ เอาละครับเล่ามาเยอะแล้วท่านพอมองภาพรวม ๆ ออกบ้างใหมครับ ว่าสภาพแวดล้อม ที่ท่านอยู่เป็น แบบใด หรือตัวท่าน และคนรอบข้างท่านเป็นแบบใด บางคนชอบซื้อของกระจุกกระจิกมาไว้เต็มบ้านไปหมด แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งบ้านอย่างไร ท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วท่านก็ยังงง ๆ อยู่ว่าผมจะให้ท่านทำอะไร ไม่ว่าภายในบ้านท่านจะมีคนอยู่กี่คนหรือนิสัยเขาจะเป็นเช่นไร หรือแม้แต่ตัวท่านเอง ทำตามนี้นะครับ
1. จัดบ้านให้สะอาดน่าอยู่ก่อนครับ จัดวางสิ่งของที่มีให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ดูน่าใช้ ดูมีคุณค่า ไม่ปล่อยให้ฝุ่นเกาะจนดำไม่มีใครอยากแตะ ส่วนของสูงเช่นพระพุทธรูปหรือสิ่งบูชา หาที่ๆ ดีที่สุดในบ้าน นำท่านไปไว้ตรงนั้น เพื่อให้ท่านได้บูชาเคารพเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนในบ้าน อย่าหันหน้าเข้า หาห้องน้ำ อย่างเดียวพอ เลือกเอาที่ๆ ท่านคิดว่าดีที่สุดแล้ว สำหรับของสิ่งนี้ และหากบ้านไหนที่มีเจ้าทีหรือ ตั๋วเอี๊ย ก็จัดวางไว้ข้างทางเดินหันหน้าออกหน้าบ้านให้เวลาท่านเดินเข้ามาก็มองเห็นได้เลย ส่วนรูปบูชาบรรพบุรุษ ผมอยากให้ท่านเก็บไว้ดีกว่าครับอย่าเอาออกมาบูชาเลย ให้ท่านไปผุดไปเกิดดีกว่าครับ แม้แต่รูปของคน ในบ้านที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็เก็บไว้ในตู้ให้มิดชิดดีกว่าครับ เวลาคิดถึงท่านแล้ว ค่อยเอาออกมาดู เพราะของ พวกนี้ เป็นสัญลักษณ์ ของความโศกเศร้าครับ

▬ หากท่านทำดีแล้วพวกเขาก็จะไม่เป็นห่วงท่าน ไม่อย่างนั้นจะเกิดความผูกพันธ์ อยู่แต่ในบ้าน ทำให้คนในบ้านกล้วอีก
2. ตัวท่านเองและคนในบ้านเวลาพูดคุยกันก็พูดแต่เรื่องที่เกิดประโยชน์ เรื่องที่เป็นมงคล ไม่เอาเรื่อง ของชาวบ้านมานินทา หรือไม่พาเพื่อนบ้านที่ชอบนินทาชาวบ้านมานินทาใครในบ้านท่าน อย่าดุด่าว่า คนในบ้านเสีย ๆ หาย ๆ อย่าเปรียบเทียบ แดกดันกันภายในบ้าน หรือร้านค้า เพราะจะไม่เป็นมงคล ต่อบุตรหลาน พวกเขาจะถูกคนอื่นทำร้ายด้านจิตใจเอาครับ
3. ข้อนี้สำคัญมากครับ หากท่านแก้ปัญหานิสัยคนในบ้านไม่ได้ ให้ท่านหาบทกลอนเพราะ ๆ ไม่สั้นไม่ยาว เกินไป เขียนตัวหนังสือ มองเห็นชัดเวลาเดินเข้าบ้าน หรือเวลาใครมาที่บ้าน มาเห็นบทกลอนเข้า จากร้าย ก็จะกลายเป็นดีเลยครับ ตามร้านค้าบางทีผมเห็นเขียนเอาตรง ๆ เลย ว่า งดเชื่อ เบื่อทวง อย่างนี้ ใช้ได้แต่หากเขา มีร้านที่ดีกว่าเขาก็ไปซื้อร้านอื่นละครับ

▬ ท่านหาบทกลอนที่เพราะ ๆ ดี ๆอย่ากินใจคนในบ้านมากเกินไปนะครับ เดียวจะไม่ดีเอา หากระดาษสี สวย ๆ หรือไปให้คนที่ลายมือสาย ๆ ช่วยเขียนให้ก็ได้ครับ บทกลอนพวกนี้ จะช่วยเตือนคนในบ้าน ว่าเขากำลังจะทำอะไรอยู่ แล้วท่านก็ไม่ต้องไปด่าว่าใครอีก ดีไหมครับ หรือเขียนว่าบ้าน นี้อยู่แล้วรวย บ้านนี้มีแต่ความสุข หรือครอบครัวนี้มีแต่ความสุข เวลาคนในบ้านเห็นเขาจะทำอะไรก็ต้องคิดก่อนแหละครับ

▬ เดี๋ยวผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ในหมู่บ้านผมนี้แหละครับ ลูกเขาชอบเที่ยวกลับดึก ๆ ไม่ค่อยช่วย พ่อแม่ทำงาน ใช้เงินเก่ง เขามาถามผมว่าจะทำอย่างไรดี เพราะยิ่งว่าก็เหมื่อนยิ่งยุ ผมก็บอกว่าหาบทกลอน เพราะ ๆ เขียนไว้ที่ข้างฝาซิ เขาก็กลับไป อีกสองอาทิตย์ต่อมา เขาก็มาหาผมอีก บอกว่าลูกเขา ไม่เข้าบ้าน มาสองอาทิตย์แล้ว ผมถามว่าไปทำอย่างไรละ ? เขาบอกว่าก็ไปเขียนบทกลอนแปะไว้ข้างฝานะซิ ผมถามว่า เขียนว่าอะไรละ ? เขาก็ท่องให้ผมฟังเลย ว่า

พ่อและแม่เลี้ยงเจ้ามาด้วยสองมือ
หวังให้เจ้าเป็นคนดีได้พึ่งพายามแก่เถ้า
ตัวไม่ดำหน้าไม่ด่างข้างไม่ลายแถมคมขำ
คบเพื่อนชั่วเอาแต่เที่ยวเอาแต่กินเสียชาติเกิด
มีสลึ่งจะเอาบาทขาดเป็นโกรธ
เป็นลูกคนหรือลูกหมา ชั่งสาระเลว

▬ ผมหัวเราะก๊ากเลย นี่มันด่าแล้ว พ่อแม่เขียนกล่อนแปะไว้ข้างฝาแบบนี้ ใครจะเข้าบ้านลงละครับ เขาก็บอกผมว่าทำไปด้วยความโมโห ผมให้เขาไปเขียนใหม่ นี่เป็นงัยครับ อาถรรพ์หรืออำนาจ ของตัวหนังสือ เห็นผลเร็วไหมครับ ? ตัวผมเองยังอยากให้กรุงเทพฯ เขียนบทกลอนดี ๆ แปะไว้ให้ทั่วกรุงเทพฯ เลยครับ

4. หากคนในบ้านใช้เงินเก่งหรือมีลูกเล็ก ๆ แต่ชอบใช้เงินเก่ง แม้แต่ตัวท่านเองก็ใช้เงินเก่ง แก้ด้วยวิธีนี้ครับ หาขวดโหลแก้วใสไม่เล็กไม่ใหญ่เท่าไร ขวดหนึ่งอาจจะใส่เหรียญได้สักพันบาท ใส่เหรียญ บาทเอาไว้ครับ สตางค์ เงินเหรียญนี้แหละครับมี อาถรรพ์มากเลย เวลาท่านไปทำงาน ตอนเย็นกลับมา มีเงินเหรียญเหลือ ก็เอาใส่ไว้ในขวดโหลแก้ว นั้นแหละครับ ใส่ทุกวันใส่ให้เต็มเลย หากเต็มแล้วก็ไปหามาอีก ก็ได้ให้ใหญ่ กว่าเดิมอีก

▬ หากมีลูกที่ใช้เงินเก่งก็บอกว่าอยากจะกินอะไรก็เอาสตางค์ในขวดโหลไปซื้อเอานะ อย่าไปหวงเขานะครับ ขวดโหลนี้ก็ตั้งไว้ในที่ๆ มองเห็นง่าย ๆ เช่นในห้องรับแขก หรือข้าง ๆ ทีวี เวลาท่านนั่งดูทีวี ก็สามารถ มองเห็นได้ แล้วท่านจะรู้ว่ามันดีอย่างไร สะสมเงินดีกว่าสะสมของอย่างอื่นอีกครับ เพื่อนผมบางคนสะสม เหรียญยังไม่พอยังสะสม แบงค์อีกครับ มันซื้อขวดโหลแก้ว ใหญ่ ๆมาใส่ไว้เต็มเลย ยังกะตู้บริจากเลย เรื่องนี้ผมได้กับตัวผมเองเลยครับ ตอนเด็ก ๆผมชอบ ขอสตางค์ พ่อแม่ไปกินขนม เวลารถขนมผ่านหน้าบ้าน ผมกับน้องก็จะวิ่งมาขอสตางค์พ่อกับแม่แหละครับ ตอนหลังพ่อผมหาขวดโหลแก้ว มาใส่เศษเหรียญ ไว้ให้ผมกับน้อง เวลาพ่อแม่ไม่อยู่ ผมกับน้องอยากกินขนมก็จะไป เอาในขวดโหลมาซื้อขนมกิน

▬ อยู่ ๆ มาผม กับน้อง ก็อยากมีสตางค์เป็นของตัวเองบ้าง ผมก็ให้แม่ซื้อขวดโหล แบบของพ่อมาให้ผม กับน้องบ้าง แล้วก็เอาไปตั้งคู่ไว้กับขวดของพ่อ แข่งกับน้องว่าใครจะเก็บเงินได้เยอะกว่ากัน พ่อผมเห็นเ ข้าชอบใจใหญ่เลย เวลากลับมาจากโรงเรียนผมก็จะเหลือเงินกลับมาทุกที บางวันผมสงสารน้องผม มันไม่ยอม กินขนมเลย มันจะเก็บเงินให้ได้มากกว่าผม บางทีเห็นพ่อกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ เอาเงินมาใส่ ขวดโหลไว้ให้ ไม่กล้าเอาของพ่อไปใช้ สงสารพ่อทำงานมาเหนื่อย บางทีแม่ก็แอบ เอาเงินมาใส่ขวดโหล ของผมกับน้องไว้ให้

▬ วิธีนี้ตอนผมทำงานอยู่ในกรุงเทพผมยังเอามาใช้กับลูกน้องของผมเลยครับ แต่ก่อนนี้ ผมมีทีมงาน อยู่ยี่สิบกว่าคน ผมเป็นหัวหน้าทีม เวลาลูกทีมของผมไปทำงานต่างจังหวัด เวลาเขากลับมาหากไม่เจอผม ถ้าเขาเดือดร้อนเรื่องเงินไม่มีเงินกินข้าว หรือค่ารถกลับบ้าน พวกเขาจะไปที่โต๊ะทำงานของผม บนโต๊ะทำงาน ของผม ๆ มีแก้วใบหนึ่ง ใส่เงินไว้ สองสามร้อยบาทเสมอ ผมจะบอกพวกเขาว่า ใครเดือดร้อน ก็มาเอาไป จะเอามาคืน หรือไม่คืนก็แล้วแต่เขา ไม่ต้องไปยืมใครไม่ต้องไปลักขโมยใคร มีคนมาหยิบไปแค่ครั้งสองครั้ง แค่นั้นแหละครับ หลังจากนั้น เวลาพวกเขากลับมาจากต่างจังหวัด เขาก็จะมาใส่ไว้ให้ผมคนละห้าสิบบาท บ้างสิบบาทบ้าง บางครั้งมีเป็นพันเลย เวลามีงานเลี้ยง ก็เอาเงินในแก้ว นี่แหละไป หรือใครเป็นอะไรจะทำบุญ ที่ไหนก็เอาในแก้วไปใช้ครับ เห็นมัยครับ ดีขนาดไหน แล้วท่านก็จะได้ระวังตัวท่านด้วยว่าอย่า ได้พาคนไม่ดี มาที่บ้าน บ้านท่านก็จะมีแต่สิ่งที่ดีๆ

5. ส่วนข้อที่ห้านี้ หากสี่ข้อ ที่ผ่านมาท่าน ทำได้ ข้อที่ห้านี้ไม่อยากเลยครับ ก็คือการวางวัตถุ หรือสิ่งของ ให้เกิดประโยชน์และเป็นมงคล กับตัวท่านเองและครอบครัวยังงัยละครับ รวมทั้งหิน และอัญมณี และเพชรพลอย ต่าง ๆ ด้วยครับ
ข้อห้าพรุ่งนี้ผมมาเล่าต่อนะครับ ผมจะอยู่เล่าให้ถึงวันที่ 25 แหละครับ ขอบคุณมากครับ

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1293