อาถรรพ์ของพลอย ภาค 17

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ สวัสดีครับผมจะเล่าต่อจากเมื่อวานนี้นะครับ ช่วงสองเดือนแรกของที่นี่ ผมใช้เวลาในช่วงวันหยุด ไปกับการ เดินซื้อของ เพื่อทำความรู้จักกับ พวกคนเดินพลอย และเจ้าของร้านขายพลอย ผมกลับมาพัก ที่กรุงเทพ อีกหนึ่งอาทิตย์ และกลับไปอีก ผมต้องทำงาน กับคนอินดู และส่งคนงานที่เป็นมุสลิมกลับ พร้อมกับหัวหน้าคนงานที่เป็นมุสลิม ผมบอกให้หัวหน้าคนงานที่เป็นมุสลิม หากกลับไปยังไม่มีอะไรทำ ก็ให้ช่วยตามหาข่าวเรื่องมรกตด้วย พวกเขารับปากผมจะไปตามหาให้ อีกสองอาทิตย์ต่อมา ผมก็ได้ทราบข่าว จากพวกเขาว่า ใครซื้อมรกตไป และเอาไปเจียระไนที่ไหน หัวหน้าคนงานของผม คนหนึ่งเดินทางเข้าไปใน แควนแคชเมียร์ เพื่อหาข่าวให้ เลยถูกยิงเสียชีวิต

▬ ผมได้รู้จักกับพ่อค้าพลอยคนหนึ่ง เข้ารับซื้อพลอยจาก อัฟกานิสถาน แถวแควนแคชเมียร์ ในฝั่งปากีสถาน ผมชอบซื้อโกเมนสีส้มและสีเขียวจากเขา ต่อมาผมขอให้เขาหามรกตมาขายให้ผมบ้าง เขารับปากผมว่าจะพยายามหาให้ ต่อมา ทางรัฐบาลต้องการสร้างโทรศัพท์เส้นทางระหว่าง ราวัลปินดี ไป อมาริสา อีก สิบสถานี ผมและญี่ปุ่นต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ ราวัลปินดี อีก แต่ก็โชคดี เพราะอยู่ติดกับ แคชเมียร์ และ ชายแดนปากีสถาน ทำให้ผมได้รู้เรื่องราวมากขึ้น ส่วนงานที่เมืองอินดูนี้มีคนญี่ปุ่น อีกสองคนมารับช่วงไปดูแลแทน ผมได้คนขับรถคนแรกที่พูดภาษาไทยได้มาอยู่ด้วย ส่วนหัวหน้างาน และคนงานต้องใช้คนพื้นที่ทั้งหมด ข้างโรงแรมที่ผมพักเป็นตลาดมืด ขนาดใหญ่ซื้อขายเพชรพลอยกัน ทุกวันไม่มีวันหยุด ว่ากันว่าเพชรพลอย ดี ๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากที่นี่ ๆ แปลกไม่เหมือนที่อื่น

▬ ตลาดจะเปิดตั้งแต่ตีห้าไปจนถึงสามทุ่ม ใครมีของก็เอามาขายกันได้ มีร้านน้ำชาให้นั่งคุย ซื้อขายกัน แบบไม่ต้องเกรงใจใคร วันไหนใครมีพลอยเม็ดใหญ่ก็เอามาประมูลซื้อกัน ใครให้ราคาดี ก็ได้ไป โรงแรมที่ผมพักส่วนใหญ่จะมีแต่พวกพ่อค้าพลอยมาพัก แต่ละวันมีเงินสะพัดในตลาดแห่งนี้ เป็นร้อยล้าน มีขาโจ๊รายใหญ่ๆ คอยคว้าน ซื้อเพชรพลอยสวย ๆ ไปหมด ขาโจ๊เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นพวก นายทุนชนกลุ่มน้อย ของเผ่าต่าง ๆ ทั้งในอินเดีย ในปากี ฯ และอัฟกานิสถาน ได้ของไปแล้วก็เอาไป ขายให้ พวกเศรษฐีน้ำมันในตะวันออกกลาง อาชีพหลักของพวกชาวบ้านก็คือปลูกฝิ่น และทำ เหมืองพลอย ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ๆ ชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ อยู่นั้น จะสามารถปลูกอะไรได้ หรือมีทรัพยากร ธรรมชาติอะไร ชนกลุ่มน้อยพวกนี้มีกองทหารเป็นของตัวเอง รัฐบาลกลางไม่ค่อยกล้าเข้าไปยุ่ง กับพวกเขา แต่ก็คอยแหย่ให้พวกเขาตีกัน และรบกัน เพื่อจะคอยหาโอกาสกำหลาบชนกลุ่มน้อยพวกนี้ ไม่ให้ตั้งตัวเป็นใหญ่

▬ แต่นิสัยของชนกลุ่มน้อยพวกนี้ ทุกคนหากมีโอกาส ก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้ากลุ่ม หากกลุ่มใหญ่หน่อย ก็ตั้งตัวเป็นเจ้าผู้ครองนคร หัวหน้ากลุ่มแต่ละคน มีเมียเป็นโหล เพื่อจะได้มีลูกหลานเยอะ ๆและหวัง จะกลายเป็น ชนกลุ่มใหญ่ให้ได้ ท่านลองดูประเทศเศรษฐี น้ำมันประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง รวยขนาดมีเงินมากมายประชาชน คลอดลูกออกมา ก็ได้เงินเดือนแล้ว พวกเขาจึงมีภรรยากัน ได้หลายคน ขายน้ำมันได้ก็เอาเงิน ไปซื้อเพชรพลอยจากชนกลุ่มน้อย เหล่านี้มาเก็บไว้เป็นตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าเกรียงไกรของเราขนมานิดหน่อยทำโวยวายไปได้

▬ เพชรพลอยของพวกนี้ก็แปลก คนรวยคนมีสตางค์ หาที่อยู่ท่านไม่เจอ ท่านชอบไปอยู่ตามป่าเขา โปรดปรานคนจน และคนป่าเป็นที่สุด โผลผุด ให้เก็บเกี่ยว คนจนคนป่า นำมาขัดมาเกลา ให้สดใส สวยงาม ยามคนจนคนป่าจะสวมใส่ ท่านจงเกียดจงชังได้ย่างไร มองเห็นพวกเขา สกปรก เลอะเทอะ ตัวดำ เลยน้อยใจหาที่อยู่ใหม่กับคนรวย ๆ หากท่านดูข่าวอเมริกา ถล่มอัฟกัน แต่จะบอกให้ของจริง ยิ่งกว่านั้นอีก ตัวผมเองยังคิดเลยว่าหากดันไปเกิดผิดที่ผิดทาง ดันไปเกิดในชนกลุ่มน้อยเหล่านี้

▬ ผมคงเป็น อภิมหาจอมโหด ยิ่งกว่าจอมโหดของโลกที่ผ่าน ๆ มาอีก ท่านดูจอมก่อการร้าย ในปัจจุบันเอาเองก็แล้วกัน นั้นคือนิสัยที่แท้จริงของพวกตะวันออกกลางเลยละ เรื่องศาสนาไม่ต้องพูดถึง ศาสนาอะไรก็ได้ที่ทำให้เขาระดมเงินมาซื้ออาวุธได้ มาเป็นใหญ่ได้ ก็นับถือศาสนานั้นแหละ นิสัยแบบนี้ จึงเป็นช่องว่างให้ ประเทศผู้ค่าอาวุธ คอยยุแหย่ให้ตีกัน จะได้ขายอาวุธได้ และยังสามารถ เขกกะบาล เล่นได้อีก ในสายตาของผมมองพวกเขาว่า ชอบชีวิตอิสระมากจนเกินไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ จึงกลายมาเป็นว่าคนอื่นมาทำให้พวกเขาเดือดร้อน พวกเขาจึงต้องต่อสู้ดิ้น รนกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย เกิดอาชีพที่ผิด กฏหมายทุกอย่าง ที่ทำให้ได้เงิน มาซื้ออาวุธ ให้กับกลุ่มของตัวเอง สิ่งที่ขายง่ายที่สุด ก็คือยาเสพติด ขายง่ายได้เงินเร็ว ได้เงินมาก็เอามาซื้ออาวุธ เอามาซื้อเพชรพลอยไปขายต่อ ให้คนรวย อีกทีหนึ่ง เพื่อเป็นการฟอกเงินดำ ให้กลายเป็นเงินขาว แล้วเอาไปฝากไว้ที่ประเทศ (ผมเคยบอก พวกท่านไปแล้วครั้งหนึ่ง) และก็ส่งลูกหลานของพวกเขา ไปเรียนหนังสือ ที่ประเทศ เหล่านั้นแหละ เรียนจบก็มีงานทำประเทศเหล่านั้นรับเลี้ยงกลายเป็นคนสองสัญชาติ เข้าออกประเทศได้สบาย จะทำอะไรก็มีทุนรออยู่แล้ว

▬ ประเดี๋ยว เถอะท่านคอยดู ยมบาลพร้อมนรก ยกโขยงไปอยู่ที่นั้นแล้ว ประเทศพวกนี้ชอบดูถูก คนไทย คอยบ่อนทำลายประเทศไทย พวกท่านทั้งหลายคอยดูอยู่ เฉย ๆ ก็แล้วกัน ต่อไปพวกท่าน ทั้งหลาย อาจจะมีคนใช้หรือเด็กขายของ หน้าร้านเป็นคน มาเล สิงค์โปร ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี เตรียมตัวไว้ครับ ส่วนพวกหนุ่ม ๆ ที่ชอบเที่ยวผู้หญิงก็เตรียมตัวไว้ได้เลยครับ สาว ๆ ประเทศเหล่านั้น จะมาเดินให้ท่านได้ชอปปิ้ง ถึงเมื่องไทยเลย เขาทำกับผู้หญิงไทยไว้เยอะ ผมไม่ได้ไปว่าไปแช่ง พวกเขานะครับ แต่มองเห็นหมดแล้วว่า พวกเขาจะเป็นอย่างไร

▬ ไม่ต้องดูอื่นดูไกลหรอกครับ ดูสิงค์โปร์ นี่แหละ ประเทศใหญ่เท่า กะลามะพร้าว เดินไปไหน จะตกทะเลตาย ไม่เจียมตัว เมื่อก่อน ชอบด่าว่าเราเป็นประเทศ โง่ ประเทศควาย ตอนนี้เป็นไงครับ ท่านลีกวนยูยังไม่ตาย นอนดูยมบาลไปเยี่ยมประเทศ ประเทศไทยจะลงทุนทำอะไรที ก็เกิดอาการกลัว ไปหมด จะมาขอเอี่ยวด้วยตลอด ไม่เอาแล้วไม่เล่าถึงพวกเขาแล้ว ตลาดมืดแห่งนี้ไม่ได้ขาย เพชรพลอย อย่างเดียว ยังขายของผิดกฏหมายอีกมากมาย

▬ เวลาว่างผมจะมาเดินหาซื้อของตามร้านแบกะดิน ที่ชนพื้นเมืองนำมาขาย ผมจะมาเดินเล่น เกือบทุกวัน หลังเลิกงาน อะไรที่ถูกใจผมก็จะซื้อ มีอยู่หลายร้านที่ไปรับพลอยคุณภาพต่ำ จากชาวบ้าน หรือเจ้าของเหมืองมาขาย ได้ ส่วนพลอยคุณภาพดี ๆ จะถูกพวกมีอิทธิพลซื้อไป เหลือไว้แต่คุณภาพต่ำ ๆ โดยปกติคนภายนอกจะไม่มีสิทธิ เขาไปซื้อพลอยได้ถึงในเหมือง หรือแหล่งพลอย ตามบ่อพลอยต่าง ๆ จะถูกรัฐบาลหรือพวกมีอิทธิพล คอยขัดขวางต่างนานา ผมเริ่มทำความรู้จักกับพวกพ่อค้าเหล่านี้ โดยการติดต่อซื้อของจากพวกเขา จนสนิทสนมกับพวกเขา เมื่อเขารู้ว่าผมมาทำโทรศัพท์ด้วยแล้ว เขายิ่งชอบผมใหญ่เลย เพราะพวกเขาก็ยังไม่มีใช้เลย รอว่าเมื่อไรผมจะติดตั้งเสร็จ และรัฐบาล จะเปิดขาย เขารู้ว่าผมไม่ใช่พ่อค้าพลอยด้วยแล้ว สิ่งที่พวกเขาเก็บงำไว้ในใจก็เริ่ม เปิดเผยให้ผมรู้ ทีละเล็กที่ละน้อย ใครทำอะไรที่ไหน ใครเป็นอย่างไรผมเริ่มรู้ บางอย่างในสิ่งที่ผมไม่คิดว่า จะเกิดขึ้นในโลกใบนี้ มันก็เกิดขึ้นจริง มีแล้วจริง

▬ ผมรู้ว่าเจ้าหัวขโมยนำมรกต ของผมมาขายในตลาดมืดแห่งนี้ เป็นจริงตามที่หัวหน้าคนงาน ของผมเคยบอก ผม และมีร้านขายอุปกรณ์ การเจียระไนแห่งหนึ่ง เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ และช่าง ชาวต่างชาติ ผีมือเยี่ยมมาเจียระไนมรกต ในเหมืองพลอยแห่งหนึ่ง แล้วไม่ได้กลับออกไปอีกเลย ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน สถานีทวนสัญญาณแห่งหนึ่ง ที่ผมทำงานอยู่ตั้งอยู่บนภูเขา ใจกลาง เหมืองพลอย แห่งนั้นเมื่อผมต้องขึ้น ไปทำงานที่นั้น ผมดีใจมาก ผมไม่กลับไปพักที่โรงแรม ผมขึ้นไปพักอยู่กับพวกคนงาน บนเขาในตัวอาคารสถานี ส่วนคนงานตั้งแคมป์ อยู่ด้านนอกตัวอาคาร มีญี่ปุ่นกับคนขับรถเท่านั้น ที่พักโรงแรม ผมอยู่บนเขามองลงไปที่เหมืองพลอยด้านล่าง เวลาที่เอา กล้องส่องทางไกลส่องดู ก็จะเห็นเกือบทั้งหมดว่า ภายในเหมืองทำอะไรกันบ้าง มีทหารของ ชนกลุ่มน้อย เฝ้ายามอยู่ตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ เหมืองหลายคน แค่นี้ก่อนนะครับ เดียวพรุ่งนี้จะมาเล่า ต่อนะครับ ขอบคุณมากครับ

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1273