อาถรรพ์ของพลอย ภาค 13

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ ต่อจากเมื่อวานนะครับ พวกเราทั้งหมดสี่คน มีไฟฉายกันคนละกระบอก ขนาดใช้ถ่านสองก้อน ทุกคนส่องไฟ ไปตามผลึกหิน ๆ แต่ละก้อน จะมีผลึกแร่ ควอตซ์เป็นแท่ง งอกขึ้นมา มีหลากหลายสี ผมพบ ทางเดินไป เข้าไปได้ อีกห้องหนึ่ง ผมเรียกให้ทุกคนเดินตามเข้ามา ผมต้องระวังมาก เพราะพื้นห้อง ไม่เรียบมีแต่ ผลึกเป็นแท่งโผล่งอก ออกมาผมค่อย ๆ ย่องมาหยุดอยู่ตรงกลางห้อง ทุกคนมายืนอยู่รวมกัน เราฉายไฟไปตาม พื้น ไปตามผนัง ไปตามเพดานห้อง ใจผมเต้นตุบ ๆ ทำไม มันช่างสวยงาม อย่างนี้ ผมคิดอยู่ในใจ ผลึกบางแท่งเป็นสีชมพู สวยมาก บางแท่งเป็นสีเขียว โผล่งอกออกมา จากผลึกแร่แคลไซต์ ยาวเกือบเมตร แต่ละผลึก เส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่ต่ำกว่าสิบนิ้ว

▬ หัวหน้าคนงานรีบบอกว่านี่แหละ มรกตคุณภาพดีต้องเป็นแบบนี้ ว่าแล้วก็ เอาไฟฉายไปส่องจี้ ที่มรกตแท่งหนึ่ง ที่โผล่ออกมาจาก ผลึกแคลไซต์ขนาดใหญ่ เป็นผลึกสีเขียวยาวเมตรกว่า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง เกือบสองเมตร ผมรีบนึกถึงพระแก้วมรกตขึ้นมาทันที ว่านี่แหละทำไม พระแก้วมรกตจึงมีขนาดใหญ่ ตอนนี้ผมหายสงสัยแล้ว มรกตที่ใหญ่กว่าก็ยังมีอยู่จริง ๆ ผมนึกถึงตอนนี้ ผมเย็นวาบไปทั้งตัว อากาศในนี้เย็น เฉียบ ผมฉายไฟไปรอบ ๆห้องนี้ แสงไฟฉายสะท้อนกับผลึก แร่สีขาวใส่ ทำให้ภายในห้องดูสว่างขึ้นมา มากที่เดียว ผมพบห้องอีกห้องหนึ่ง ผมค่อย ๆเดินเข้าไป ห้องนี้ ผนังห้อง เขียวไปทั้งห้อง ตรงกลางห้อง เป็นผลึกแร่แคลไซต์ขนาดใหญ่ สีขาวอมฟ้า ใหญ่ไม่ต่ำ กว่าสิบเมตร ตรงกลางเป็นผลึกแท่งมรกตสูงกว่าผลึกของแคลไซต์ ประมาณสองคืบกว่า ๆ เหมือนมี รอยหักเป็นปากฉลาม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง สองเมตรกว่า ผมเรียกทุกคนเข้ามาดู หัวหน้าคนงาน พูดขึ้นมาว่า ผลึกก้อนนี้เป็นรอยหัก ผลึกท่อนบนหายไปไหน แล้วพยายามเอาไฟฉาย ๆ ดูรอบ ๆ ห้องก็ไม่พบ ทุกคนช่วยกันหา แต่ผมยืนตัวแข็งคิดในใจ ว่าไม่เจอหรอก

▬ เมื่อหนึ่งพันปีก่อน คงมีคนมา พบถ้ำนี้แล้ว ๆเอามรกต ไป แกะเป็นพระแก้วมรกต อยู่ในประเทศไทยแล้ว ผมคิดอย่างนี้จริง ผมดีใจ จนน้ำตาไหล ยืนทื่อไม่ขยับตัวเลย จนทุกคนสงสัย หันมาถามผมว่า เป็นอะไร ? ผมรีบเช็ดน้ำตา แล้วบอกว่าไม่เป็นไร ญี่ปุ่นเอาไฟฉาย ๆ ส่องหน้าผม แล้วถามผมว่าดีใจมากหรือ? ผมบอกว่าใช่ ผมดีใจมาก ไฟฉายผมเริ่มหรี่ ผมบอกทุกคนว่า ใช้ไฟฉาย แค่สองกระบอกดีกว่า ประหยัดไว้สองกระบอก ทุกคนเห็นด้วย ปิดของผมกับของญี่ปุ่น ใช้ของหัวหน้า คนงาน ถัดจากห้องนี้ไปยังพบห้องอีกห้องหนึ่ง พบผลึกมรกตสีแดง สีชมพู สวยงามไปทั้งห้อง แต่ละแท่งใหญ่ ไม่ต่ำกว่าสิบนิ้ว มีทั้งแนวนอน แนวตั้ง และขนานไปตามพื้น บนเพดานยังมีผลึกย้อย ลงมาอีก เต็มไปหมดในห้องเย็นเกือบจะทนไม่ไหวกัน อากาศหายใจเริ่มน้อย ปากคอสั่นกันไปหมด

▬ ถัดจากห้องนี้ไปยังมีทางเดินไปได้อีก หัวหน้าคนงานเอาไฟฉาย ๆ ส่องหน้ากันไปมา ญี่ปุ่นบอกว่าออกไป สูดอากาศที่ปากถ้ำก่อนดีกว่า ทุกคนเห็นด้วย เราค่อย ๆ เดินออกมา แล้วมาหยุดยืน อยู่ที่ มรกตแท่งที่ท่อนบนหายไป หัวหน้าคนงานพูดขึ้นมาว่ามันหายไปไหน ? ญี่ปุ่นถามว่าคุณคิดว่า มันหายไปแน่หรือ ? เขาบอกว่าใช่ ผมเปิดไฟฉาย ส่องดูส่วนบนของมันให้แน่ใจ ทุกคนมาช่วยกัน วิเคราะห์ ผมพูดขึ้นว่าหากหายไปก็หายไปนานแล้ว เพราะรอยหักเป็นปากฉลามนี้ เป็นรอยตัดเฉียง นานมากแล้ว จนความคมของมันไม่มีแล้ว ผมคิดในใจว่าต้องเป็นพระแก้วมรกตของเราแน่ ๆ แต่ก็บอกใครไม่ได้ เราชวนกันเดินออกมาใกล้ปากถ้ำ เพื่อสูดอากาศหายใจ ผมมองออกไปปากทางเขาถ้ำ เริ่มมีแสงส่องเข้ามาบ้างแล้ว หัวหน้าคนงานชวนเดินสำรวจดูรอบ ๆ อีก

▬ ผมบอกว่าเราหยุดพัก ก่อนหนาวมาก ผมหาที่นั่งแล้วหยิบเอาขวดเหล้าที่ติดตัวออกมา พอทุกคนเห็นขวดเหล้า ก็รีบเข้ามา ผมเปิดขวดเหล้า แล้วตั้งที่พื้นยกมือห้ามทุกคนแตะขวดเหล้า ผมบอกว่ารอเดียว ผมเอามือขวาจับขวดเหล้าที่พื้นแล้ว หลับตา นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำนี้ และครูบาอาจารย์ เจ้าที่เจ้าทาง ให้มาดื่มเหล้า และช่วยคุ้มครองพวกเรา แล้วปล่อยมือทิ้งไว้ ประมาณ นาทีหนึ่ง หลังจากนั้นผม ก็ค่อย ๆ เทเหล้าลงพื้นนิดหนึ่ง เพื่อเป็นพิธี ผมยกดื่มเข้าไป สามอึก แล้วส่งต่อให้ทุกคน ผมรู้สึกตัวอุ่นขึ้นมาบ้าง ทุกคนพากันหัวเราะผม

▬ หัวหน้าคนงานชวนเดินสำรวจต่อ พบ ห้องอีกห้องหนึ่ง ภายในเป็นผลึก แร่สีทอง แท่งใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย และยังมีทางเดินลงไปด้านล่างอีก เราเดินตามทางกันไปเรื่อย ๆ พบผลึกแร่แต่ละก้อน สวยงามมาก เกินจะสุดบรรยาย ผมเริ่มเอะใจ ยิ่งเดินก็ยิ่งพบที่สวยมากกว่าเดิมเข้าไปอีก แต่ละก้อนแต่ละแท่ง มีทั้งสีเขียว ทั้งสีแดง มี่ทุกสี แต่ละแท่ง เมื่อกระทบแสงไฟ จากไฟฉาย ระยิบระยับ สวยงามไปหมด เหมือนพวกมันมีชีวิต มีความรู้สึกอยากเล่นกับแสงไฟ

▬ ผมเริ่มรู้สึกหายใจเร็วขึ้น เพราะอากาศน้อยเข้าไปทุกที ผมชวนพวกเขาหยุดเดิน พวกเขาหัน มาบอกว่า ยังไม่เหนื่อยเลย อยากดูต่อไปอีก ยิ่งดูก็ยิ่งสวย แล้วก็เดินนำหน้าผมไป แล้วก็ชวนกันคุยว่า อันนั้นก็สวยอันนี้ก็สวย เดินไปเรื่อย ๆ และมาถึงบริเวณห้องโถงใหญ่มาก กว่าห้องตรงปากทางเข้า ผมชวนพวกเขาหยุด สำรวจห้องนี้ แต่พวกเขายังอยากจะเดินต่อ ผมเปิดไฟฉายผมถ่าน ใกล้จะหมดแล้ว ผมบอกพวกเขา ญี่ปุ่นหันมาส่งไฟฉายให้ผม บอกว่าของเขาถ่านยังใหม่อยู่ ผมส่งของผมให้เขา

▬ หัวหน้าคนงานหันมาบอกผมว่า ถ้าเดินไม่ไหวก็นั่งคอย อยู่ตรงนี้แหละ พวกเราจะเดินดูต่อ ผมหันไปมองเขาทันที ผมรู้สึกว่า น้ำเสียงเขาผิดไป พูดเหมือนคนไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกหนาว ญี่ปุ่นพูดเสริมขึ้นให้ผมนั่งรอตรงนี้ ผมตัดสินใจ บอกว่าก็ได้ แล้วพวกคุณจะใช้เวลากี่นาที เขาบอกว่าประมาณสามสิบนาที แล้วจะกลับมา ผมบอกว่าหากเกิน สามสิบนาที ผมจะไปรอตรง ปากทางนะ เขาตอบ OK แล้วพากันเดินต่อไป ผมนั่งคิดในใจอากาศในนี้ เย็นจับขั้วหัวใจ แม้แต่มด ตัวเล็ก ๆ ก็ไม่อาจเข้ามา และ อ๊อกซิเจนเริ่มเบาบาง ทำ ไมพวกเขายังดูเหมือนปกติ หรือผมคิดมากไปเอง ผมเอาเหล้าออกมาดื่มอีก สามสี่อึกใหญ่ ๆ ให้ภายในตัวอุ่นขึ้นมาบ้าง ผมฉายไฟไปรอบ ๆ ห้อง พบผลึกมรกต แต่ละก้อน ๆ สวย เขียว ใส เวลาถูกแสงไฟฉาย มันสะท้อนแสงสวยงามมาก ทำให้ภายในห้องดูสว่างขึ้นมามาก ผมเดินดูรอบ ๆ ห้อง ไปเรื่อย ๆ พบผลึกแต่ละแท่ง ยิ่งดูก็ยิ่งสวยกว่า ก้อนแรก มีหลายสีเพิ่มขึ้นมา แท่งนี้ก็สีแดงแท่งนั้น ก็สีเขียวแท่งโน้นก็สีขาว แท่งนี้ก็สีชมพู นี่ก็สีเหลือง นั้นก็สีม่วง แท่งนั้นใหญ่กว่าแท่งนี้ ภายในห้องเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผมมองเห็น ผลึกแร่เต็มไปหมด

▬ ผมเดินไปเรื่อย ๆ เหมือนมีใครมากระซิบที่ข้างหู ผมว่า ดูแท่งนั้นซิสวยกว่าแท่งนี้อีก ดูแท่งโน้นซิ สวยกว่าแท่งนั้นอีก ผมเดินตามเสียงที่บอกไปเรื่อย ๆ มองดูมรกตแต่ละแท่งเหมือน พวกมันกำลัง ร้องเรียกผมอยู่ " มาดูฉันหน่อยซิ ฉันคอยเธออยู่ "มาหาฉันทางนี้ ฉันคิดถึงเธอ" บางเสียง เหมือนพวกมัน กำลังร้องไห้เรียกหาผมอยู่ เสียงดังมาจากทางซ้ายที ทางขวาทีผมเดินไปตามเสียงนั้น ผมเดินเข้าไปหาพวกมัน ใช้มือลูบคลำมันอย่างแผ่วเบา " ฉันก็คิดถึงพวกเธอ" น้ำตาผมหยดแหมะ ๆ ลงไปบนแท่งมรกต โดยไม่รู้ตัว เสียงนั้นดังเข้ามาใน ความรู้สึกของผมอีกว่า " อย่าร้องไห้ซิ เดียว ฉันก็ร้องไห้หรอก "

▬ ผมเดินไปเรื่อยๆเอามือแตะมรกตทุกแท่งที่เดินผ่าน แล้วบอกพวกมันว่า ฉันก็คิดถึงพวกเธอ ผมอยากตะโกนให้สุดเสียงว่า โอ้..นี่สวรรค์ หรือกะไร ? เสียงนั้นก็เขามาในความรู้สึกของผมอีกว่า มาทางนี้ซิ ผมเดินตาม เสียงไปเรื่อย ๆ ผมมองเห็นเจ้ากระต่ายน้อย สีขาวตัวหนึ่ง กำลังมองผมอยู่ แววตามันสดใสบริสุทธิ์ ผมค่อย ๆเดินไปหามัน ๆ หันหลังกระโดดหนีผม ๆตามไป พบมันกำลัง อยู่ ในอุ้งมือของใครคนหนึ่ง ใครคนนั้นกำลังอุ้มมันอยู่ ผมมองจาก มือขึ้นไปข้างบน พบใบหน้าคนผู้หนึ่ง กำลังยิ้มให้ผม ทั้งใบหน้าและดวงตา ดังภาพวาดเทวา สวมใส่อาภรณ์ เขียวเหลืองชมพู ไปทั้งองค์ สองมือประครองเจ้ากระต่ายน้อยตัวนั้นไว้ อย่างถนอม ด้านหลังเป็นห้องกว้าง ห้อมล้อมด้วยเหล่า สาวงาม กำลังมองมาที่ผม ดวงตาแลใบหน้าดังเทวี มาจุติ ผิวชมพูขาวราวกลีบกุหลาบ สวมใส่ สไบแพร หลากหลายสี สวมมงกุฏทำด้วยดอกไม้หอมนา ๆ พันธุ์ ผมตะลึงอยู่กับที่ นี่สวรรค์หรือ มีเสียงตอบมาว่าใช่กระมัง เสียงนั้นดังว่า " มาซิตามมาจะพาไปชมให้ทั่ว "ผมเดินตามคนผู้นี้ ไปอย่างว่าง่าย ร่างเขาค่อย ๆเคลื่อนไปข้างหน้าอย่าง เรื่อย ๆ เหล่าสาวงาม เคลื่อนกายตามผม มาอย่างช้า ๆ สองข้างทางเดินเต็มไปด้วยแท่ง มรกต หลากหลายสีสัน งดงามตา พวกมันกำลังดีใจ ที่ได้พบผม ๆได้ยินเสียงของพวกมันว่า " ฉันอยู่ทางนี้ ฉันคิดถึงเธอ " ผมก็บอกพวกมันว่า ฉันก็คิดถึง พวกเธอ

▬ พวกเขาพาผมเข้ามาใน ห้องใหญ่ห้องหนึ่ง ใหญ่มาก ภายในเต็มไปด้วย แท่ง มรกต หลายสี ที่งอกขึ้นมาจากพื้นที่เป็น ผลึกแร่หลากหลายสี ทั้งเพดานด้านบนและด้านล่าง เต็มไปด้วยผลึกมรกต มีมรกตหลายแท่งใหญ่ขนาด ห้าคนโอบ สูงสุดตามอง พวกเขาพาผมเดินมาหยุดอยู่ทีกลางห้อง มีผลึกแร่มรกต ที่ ท่อนบนหายไป มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ? มีเสียงดังเข้ามา ในความรู้สึกของผมว่า " ถูกต้องแล้วในสิ่งที่เธอคิด " หมายความว่า มรกตที่หายไป ถูกแกะสลักเป็นพระแก้วมรกต หรือ ? ใช่แล้วเพื่อเป็นพุทธบูชาของเรา ในความรู้สึกของผม ที่นี่ทีไหนกันแน่ ? ทีนี่เป็นหัวใจ ของมรกต ทั้งปวง ในความรู้สึกผมรับได้

▬ ขณะนั้นเจ้ากระต่ายน้อย ตัวนั้นก็กระโดด แผว ลงจากอุ้งมือ มายืนอยู่ตรงหน้าผม แล้วค่อย ๆ กลาย เป็น ผลึกแร่ มรกตหลากหลายสีเต็มไปหมด เหมือนดอกบัว ที่มีกลีบดอกสีแดงอมชมพู ตรงกลางมีเกสร สีเหลือง บางครั้ง กลาย เป็น เหมือนดอกสรสุคนธ์ ผลึกแผ่เป็นกลีบสีม่วง ตรงกลางเป็นแท่ง เกสรส ีเหลืองทอง รอบเกสร เป็นสีแดงชมพู แล้วกลายเป็นมรกต แท่งสีเขียวเข็มขนาดเท่ากำมือ แน่นิ่งไป เขาผู้นั้นค่อยเอื้อม มือหยิบขึ้นมาแล้วส่งให้ผมๆ รับมาดูด้วยความดีใจ ในความรู้สึกผม " สวรรค์ สร้างสรรค์ ได้ทุกอย่างหรือ ธรรมชาติ สร้างสวรรค์ " มีเสียงที่ความรู้สึก ของผมรับได้เข้ามา บอกว่า " เมื่อทุกอย่างพร้อม สร้างสรรค์ได้ดังใจคิด "แล้วตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ เพื่อนผมอยู่ที่ไหน และหัวหน้าคนงานผม แล้วผมยังมีงานที่ต้องรับผิดชอบ รออยู่อีก

▬ ผมสะดุ้งสุดตัว รอบ ๆข้างตัวผม มีญี่ปุ่น และหัวหน้าคนงาน กำลังหลับอยู่ ผมปลุกพวกเข้าให้ตื่น ผมมองไปรอบ ๆ พวกเรากำลังนอนกันอยู่ข้าง ริมลำธารทางเดิน ทุกคนมองหน้ากันไปมา ผมลุกขึ้น ยืนมองหา มรกต มองหา ภูเขา มองหาถ้ำ ทุกอย่าง โล้ง มีแต่ไร่ข้าวโพดและต้นกัญชา แค่นี้ก่อนนะครับ วันหยุดกลับไปกินข้าวกับแม่นะ วันจันทร์ค่อยเจอกัน ขอบคุณครับ

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1245