อาถรรพ์ของพลอย ภาค 8

เล่าเรื่องโดย ... คนหาพลอย

▬ ผมเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวเพื่อ ลงไปรอญี่ปุ่นข้างล่าง เพราะนัด ทานอาหารเย็นกันที่ ห้องอาหาร ของโรงแรม ผมหยิบรองเท้าแตะ ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้มาใส่ เดินลงไปรอที่ห้องอาหาร อีกสักครู่ต่อมา ญี่ปุ่นก็ลงมา เราสั่ง อาหาร นั่งทานกันไปคุยกันไป จนรู้สึกว่าดึกพอสมควรจะสี่ทุ่มแล้ว แต่มีแขกเริ่มเข้ามาทานอาหารกันมากขึ้น ทุกคนแต่งตัวกันสวยงามเครื่องประดับ แพรวพราวไปหมด สาว ๆ ผิวขาวหน้าตาดี ๆ มีมากมาย โดยเฉพาะหน้า ห้องดิสโก้เทค ผมนึกแปลกใจ แขกขาวพวกนี้ ตอนกลางวันพวกเธอไปอยู่ที่ไหนกันหมด ผมเห็นมีแต่พวกตัวดำ ๆ เหม็นเขียวไปหมดเวลาอยู่ใกล้

▬ ผมหันไปคุยกับญี่ปุ่นเรื่องนี้และได้แต่หัวเราะกัน เราทานอาหารเสร็จ ก็แยกกัน ไปนอน เพราะต้องตื่นแต่เช้าอีก ผมเดินกลับเข้าห้อง พอผมถอดรองเท้าออกจะเดินเข้าห้องน้ำ ก็ต้องแปลกใจอีก ผมกำลังเหยียบเม็ดกรวดอะไรบนพื้นห้อง ผมก้มลงดู หยิบขึ้นมาดู อ้าวเม็ดกรวดเม็ดนั้นอีกแล้วนี่ผม ไปเหยียบมัน ติดร้องเท้าขึ้นมาบนห้องอีกแล้ว ผมนึกในใจ แล้วก็ทิ้งมันไปเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เดินออก มาจากห้องน้ำ ผมเหยียบมันเข้าอีกแล้ว แต่ผมก็ไม่สนใจ ขึ้นเตียงนอนเลย

▬ ผมตื่นขึ้นตอนเช้าของวันใหม่ เวลาที่นี้ ต่างกับเมืองไทย ตั้งสองชั่วโมง แต่ผมก็ตื่นเป็นปกติเหมือนตอนอยู่บ้าน ผมก้าวลงจากเตียง เท้าผมก็เหยียบ เจ้าเม็ด กรวดเม็ดนั้นอีก ผมรู้สึกได้ แต่ก็ไม่คิดอะไร ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปทานอาหารเช้า แล้วรอทุกคนจนครบ แล้ว ออกไปทำงานต่อ ตอนเย็นผมกลับเข้าห้อง พอถอดร้องเท้าออก ผมก็เหยียบเจ้ากรวดเม็ดนั้นอีก ผมนึกในใจแม่บ้าน มาทำความสะอาดห้องคงไม่ได้กวาดพื้น แน่ ตอนเช้าผมตื่นลุกขึ้นจากเตียง ผมต้องเหยียบเจ้ากรวดเม็ดนี้ อีก ผมนึกในใจอะไรของมันวะ แล้วก็หยิบ มันใส่ลงถังขยะไปเลย

▬ ผมอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานเหมือนเคย ตอนเย็นผมก็ กลับมา เข้าห้องพอผมถอดรองเท้าออก ผมก็เหยียบเจ้ากรวดเม็ดนี้อีก ผมเริ่มแปลกใจมองไปที่ถัง ขยะ ดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือป่าว ก็มีรอยแม่บ้านมาทำความสะอาดนี่ ผมหยิบมันใส่ถังขยะลงไปอีก ตื่นเช้า ขึ้นมาผมลุกจากเตียง ผมก็เหยียบเจ้ากรวดเม็ดนี้อีก ผมหยิบขึ้นมาดูใหม่ นึกในใจ ก็ตอนเย็นเอามันโยนลงถังขยะ ไปแล้วนี่ ทำมัยมาอยู่ตรงนี้อีก ผมโยนลงถังขยะไปอีก และคิดในใจไม่ควรไปคิดอะไรกับกรวดเม็ดเดียว เดี๋ยวจะ เปื้อนเอา ผมก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานปกติ ตอนเย็นผมก็กลับเข้ามาที่ห้อง พอผมถอดรองเท้า ผมก็เหยียบเจ้า กรวดเม็ดนี้อีก ผมเริ่มรำคานหยิบมันขึ้นมา แล้วเปิดประตูห้องโยนมันออกไป คิดในใจ แม่บ้านมาเทถังขยะตรง ที่วางรองเท้าหรือ ไร ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ลงไปทานอาหาร ข้างล่างแล้ว กลับขึ้นมาเข้านอนตามปกติ แปลกคืนนี้ผมนอนไม่หลับ ผมดูนาฬิกาจะตีหนึ่งอยู่แล้ว ทำไม่นอนไม่หลับวันนี้ ผมลุกจากเตียงจะไปเปิดตู้เย็น ดูว่ามีอะไรกินให้ง่วงนอนบ้าง ( ปกติตัวผม หากนอนไม่ค่อยหลับ จะชอบหาเบียร์มาดื่มสักหนึ่งกระป๋องเพื่อให้ง่วง นอนแล้วจะหลับสบาย )

▬ พอผมลุกจากเตียง ผมก็เหยียบ เจ้ากรวดเม็ดนี้อีก ผมหยิบมันขึ้นมาเปิดไฟดู ทำมัยมัน ต้องเป็นแบบนี้ ผมเดินไปเอาเบียร์จากตู้เย็นมาเปิดกิน แล้วเอาเจ้ากรวดเม็ดนี้มานั่งดู ผมคิดในใจว่า หรือว่ามันอาจ จะไม่ใช่กรวด มันอาจจะเป็น พระธาตุ ผมคิดในใจ อื้อ ผมคงไม่มีบุญขนาดนั้นมั๊ง ผมดื่มเบียร์จนหมดกระป๋อง ก่อนทิ้งกระป๋องลงถังขยะ ผมคิดในใจว่าเจ้ากรวดเม็ดนี้ มันจะเป็นอะไรก็ชั่ง แต่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมต้อง ทำอะไรบ้างแล้วละ ผมหยิบเจ้ากรวดเม็ดนั้น ใส่มือแล้วพนมมืออธิษฐาน หากกรวดเม็ดนี้เป็นของดีจริงพรุ่งนี้เช้า ขอให้พบมันอีก ผมเอาเจ้ากรวดหย่อนใส่กระป๋องเบียร์ แล้วโยนลงถังขยะไปเลย ผมนอนต่อ ก่อนจะหลับผมนึก ถึงประเทศอินเดีย ว่าตอนสมัยพระพุทธเจ้าอยู่ สภาพบ้านเมืองหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมนึกไปถึงเรื่องเทพ เรื่อง รามายานะ หรือรามเกียรติ์ของไทย

▬ ผมนอนหลับฝันไปว่า ผมได้ไปที่ ๆ ไหนสักแห่ง มีแม่น้ำอยู่ข้างหน้าผม ๆ ไป ยืนอยู่คนเดียว ไม่มีใครเลย ผมเดินไปเรื่อย ๆ ตามตลิ่ง มีเสียงคนพูดขึ้นว่า มาหาใคร ในฝันผมพูดว่ามาหาแม่คงคา มีเสียงตอบมาว่านี่แหละแม่น้ำคงคา ผมมองหาตัวคนพูดไม่พบ ผมก้มลงเอามือวักน้ำมาล้างหน้า เสียงนั้นก็ดังขึ้น มาอีกว่า นี่เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จะกินก็ได้ จะดื่มก็ได้ ในฝันผมวักน้ำมาดื่ม แล้วถามเสียงนั้นว่า แล้วแม่คงคาอยู่ไหน เสียงนั้นตอบว่า เดินไปข้างหน้าซิเดียวก็เจอ ผมเดินไปอีก (ไม่รู้กี่ก้าว) ผมก็เห็นผู้หญิงผมยาว หันมายิ้มให้ผม หน้าตาเหมือนคนอินเดีย แต่ขาวเรียวยาวสวยกว่า แต่งตัวด้วยผ้าแพรสีชมพูแดง มีอัญมณีประดับเต็มไปหมดเลย เรียกผมไปหา ว่าเข้ามานี่ซิ ผมเดินเข้าไป เธอส่งของอะไรให้ผม สักอย่างหนึ่ง ไม่รู้ (ในฝันผมมองไม่เห็น) แล้วพูดว่า เอ้า แม่ให้ ผมเอื้อมมือไปรับมา ตัวเธอก็เหมือนเขามาหาผม ๆ ตกใจตื่นขึ้น แต่ก็ไม่คิดอะไร ผมลุก จากเตียง ไปอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อจะออกไปทำงาน

▬ ผมคิดขึ้นมาได้ว่า ตอนลุกจากเตียงไม่ได้เหยียบเจ้ากรวดเม็ด นั้นอีกแล้ว ผมออกไปทำงาน ตามปกติคนพื้นที่ บอกผมว่า สถานีสุดท้ายนี้ มีสถานที่ท้องเที่ยว อยู่ใกล้ ๆด้วย ผมดีใจเพราะทำงาน เสร็จเร็ว ก็มีเวลา เที่ยวมาก เมื่อพวกเราทำงานเสร็จ พวกเขาก็พาเราไปเที่ยวสถานที่ๆ เขา บอก สถานที่แห่งนี้ เป็นภูเขาไม่ใหญ่มากนัก มีน้ำตกเล็กๆอยู่ ข้างทาง มีลำธารเล็ก ๆ ไหลลง ไปตามไหล่เขา อีทีหนึ่ง มีร้านค้าขายของอยู่ไม่กี่ร้าน เป็นร้านเล็ก ๆ ขายจำพวกของกิน ถัดไปอีกไม่ไกลมีขอทาน นั่งกันเต็มไป หมดเลย พอพวกเราลงจากรถ ก็ต้องเดินอย่างระมัดระวัง มี แต่ขี้ เต็มไปหมดเลย ใจผมก็ไม่อยากลงไปหรอกแต่ ก็กลัวคนพื้นที่เขาจะว่าเอา ว่ารังเกียจ หรือดูถูก เขาอุตส่าห์พามาเที่ยว

▬ เราเดินไปที่น้ำตกกัน ผมไม่ค่อยได้สนใจผู้คน เท่าไร มัวแต่ระวังว่าจะเดินไปเหยียบ ของเหม็น ๆ ติดรองเท้า พวกเราเดินไปถึงน้ำตก แล้วเดินมาที่ร้านน้ำชา นั่ง กินน้ำชากัน ขณะนั้นมีชายแก่วัย กลางคนเดินมาจากไหนไม่รู้ มาหาเรา พูดภาษาอังกฤษได้ ดี มาขอตังผมส่งให้ไป 100 รูปี ดีใจใหญ่ เจ้าของร้านน้ำชาออกมาบอกว่าอย่าไปให้ เดี๋ยวมากันใหญ่ แต่ชายคนนั้นกลับนั่งลงที่พื้น แล้ว พูดว่า เขาสามารถ ทำนายดวงดูเหตุการณ์ล่วงหน้าได้นะ ผมนั่งมองไปตามทางเดิน ก็ต้องยอมรับว่า ที่นี่มีคนหลาย อาชีพจริง ๆ ญี่ปุ่นชักสนใจเรื่องดูดวง บอกให้ชายคนนั้นช่วยดูให้ ชายคนนั้นล้วงลงไป ในย่ามหยิบก้อนหินออก มากำมือหนึ่ง แล้วให้ญี่ปุ่น เลือกก้อนหิน ที่ละก้อน ๆ ละหนึ่งคำถาม ญี่ปุ่นเลือกไปห้าก้อน ห้าคำถาม ผมถามญี่ปุ่น ว่าตรงไหม? ญี่ปุ่นได้แต่ยิ้ม แล้วหันมาถามผมว่าจะ ดูไหม ? ผมบอกไม่ดู ชายคนนั้นหันมาบอกผมว่ าผมจะโชค ดีได้กลับมาที่นี่อีก ผมถามเขาว่านั้นหินอะไร ที่ใช้ทำนาย เขาบอกว่าหินนำโชค เป็นหินจากแม่น้ำคงคา พูดแล้วก็ หยิบออกมาจากย่าม ส่งมาให้ผม ดูก้อนหนึ่ง ใหญ่ขนาดหัวแม่มือ สีขาวขุ่นใส่ ผมนึกในใจ มันช่างเหมือนเจ้ากรวด เม็ดนั้น แต่มันใหญ่กว่า แค่นั้นเอง ผมส่งคืนเขาไป เขาเก็บใส่ย่าม แล้วหันมายิ้มให้ผม

▬ เราเดินกลับมาขึ้นรถระหว่าง ที่อยู่ในรถคนพื้นที่ ก็บรรยายสรรพคุณ ของแม่น้ำคงคา ให้ผมกับญี่ปุ่นฟังมาตลอดทาง ผมคิดในใจว่าผมพอรู้เรื่อง แม่น้ำคงคามาบ้างพอสมควร ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของแม่น้ำสายนี้ พวกเรากลับถึงโรงแรม ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ผมกลับเขาห้อง ของผม ครั้งนี้ไม่พบเจ้ากรวดเม็ดนั้นอีกแล้ว ตอนเช้าตื่นนอนมาลุกลงจากเตียงก็ไม่เจออีก ผมทำ งานไปได้อีกสองวัน ญี่ป่นบอกผมว่าทาง กรุงเทพฯให้ผม กลับไปและเตรียมตัวไปดูงานที่ญี่ปุ่นวันพรุ่งนี้ ผมดีใจ จะได้ไปญี่ปุ่น วันรุ่งขึ้นผมเดินทางกลับมากรุงเทพฯ ถึงบ้าน และเตรียมตัว เข้าไป office รายงานตัว

▬ รุ่งเช้าของอีกวันหนึ่ง ผมตื่นนอนลุกจากเตียงจะไปอาบน้ำ เท้าผมก็เหยียบ อะไรเข้าบ่างอย่าง ความรู้สึกผมบอกผมว่า มันเหมือนเจ้ากรวดเม็ดนั้นที่อินเดีย ผมรีบก้มลงดู โอ มันใช่จริง ๆด้วย ความรู้สึกผมตอนนั้นบอกไม่ถูก ว่าเจ้า กรวดเม็ดเท่าหัวไม้ขีดนี้จะมามีอะไรกับผม ตามผมมาได้อย่างไร ก็ผมทิ้งลงไปในกระป๋องเบียร์แล้วใส่ลงในถัง ขยะแล้วนี่ ผมเริ่มไม่มั่นใจเจ้ากรวดก้อนนี้แล้ว เลยหยิบไปวางไว้บนหิ้งพระแล้ว อาบน้ำแต่งตัวไป office ราย งานตัว ทางญี่ปุ่นที่ ทำงานขอหนังสือเดินทางผมไปทำ วีซ่า บอกผมว่าอีกห้าวันให้ผมเดินทางไปดูงานติดตั้งระบบ อุปกรณ์ที่ โยโกฮามา และช่วงนี้ให้ผมพักผ่อน อยู่บ้าน ผมกลับมาที่บ้าน พอมาถึงบ้านผมก็ ตรงรี่ไปที่หิ้งพระ เพื่อจะดูเจ้า กรวดเม็ดนั้น ผมหยิบขึ้นมาดู แล้วใช้กล้อง ส่องพระส่องดู มันก็เหมือน ก้อนกรวด ใส่ ๆ ธรรมดานี่เอง ( โดยปกติผมก็ชอบ ส่องดูพระอยู่แล้ว ) ผมเลยเอาไว้ที่ ฝ่ามือพระบูชา พระพุทธรูป พระพุทธชินราช ขนาดเก้านิ้ว ที่ผมบูชาอยู่ เย็นวันนั้นผมซื้อ ดอกไม้มาบูชาพระใหม่

▬ ผมอยู่บ้านได้สี่วัน ทาง office ก็นัดวันเดินทางให้ผม เตรียมตัว ผมต้องเดินทาง ช่วงประมาณสามทุ่ม แต่ช่วงตอนเช้า ผมออกไปใส่บาตร หน้าหมู่บ้าน แล้วกลับเข้าบ้านมาเก็บของ ลงกระเป๋าเดินทาง เตรียมตัว ระหว่างช่วงเก็บของ ผมก็เหยียบ เม็ดกรวด เข้าอีก ผมก้มเก็บมาดู อ้าวเจ้ากรวดเม็ดนี้ มันหล่นลงมาได้อย่างไร ผมเก็บขึ้นไป ไว้บนฝ่ามือพระพุทธรูปอีกครั้ง พอได้เวลาก่อนออกจากบ้านไปสนามบิน ผม สวดมนต์ไหว้พระก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง และบอกท่านว่าผมจะไปไหน ให้ท่านช่วยคุ้มครอง และคราวนี้ผมบอกท่านว่า ผมได้กรวดมาก้อนหนึ่ง ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ให้หลวงพ่อช่วยปลุกเสกให้ ด้วย กลับมาจากญี่ปุ่นจะมาขอคืน

▬ แล้วผมก็เดินทางออกจากบ้านไปสนามบิน และไปถึงญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นจัดที่พักเป็น อพารท์เม้นต์ ไว้ให้ผม ใกล้ ๆ กับโรงงาน ประกอบอุปกรณ์ ( ใช้เวลาเดินไปแค่สิบนาที่ ) ไปถึงญี่ปุ่นก็เป็น เวลาทำงาน พอดี มีคนมารับผมไปที่โรงงาน และพาผมไปดูสถานที่พัก สถานที่ทานอาหาร และให้ผม พักผ่อน นัดเจอกันตอนเช้าที่โรงงาน คืนนั้นผมนอน หลับสบาย ขนาดดูทีวี ดึก ยังตื่นเหมือนปกติ เหมือนอยู่ ที่บ้าน ผมตื่นตอนเช้าอาบน้ำแต่งตัว พอผมกำลังจะใส่ถุงเท้า ๆ ผมก็เหยียบเอาอะไรเข้าอีก ความรู้สึกผม บอกได้ทันทีว่ามันคืออะไร ผมรีบหยิบมาดู เจ้ากรวด เม็ดนี้จริง ๆ ใจผมเต้นตุบ ๆ ผมทั้งดีใจและ ทั้งแปลกใจ ผมคิดในใจ มันตามผมมาได้อย่างไร ? และผมจะทำ อย่างไรกับมันดี ผมคิดในใจว่า มันต้องเป็นของดีแน่ ๆ ผมเอามันห่อกระดาษ เล็ก ๆ พับเป็นสี่เหลี่ยม เล็ก ๆ แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ แล้วฝึกงานอยู่ที่ญี่ปุ่นสี่วัน แล้วกลับเมืองไทย วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ วันหยุดผมจะไป เยี่ยมแม่ผม ที่ต่างจังหวัดครับ วันจันทร์ ผมจะมาเล่าต่อว่าเจ้ากรวดเม็ดนี้ มันจะทำ

จาก Web board 'คุยเฟื่อง เรื่องหิน' กระทู้ที่ 1205