ไข่มุก การพิจารณาเลือกซื้อไข่มุก

1. สี

สีควรสะอาด เรียบเสมอ ไม่สกปรก มอซอ

2. ประกายความวาว

มีความวาวแบบมุก (pearly luster) สม่ำเสมอทั้งเม็ด

3. ความโปร่ง

กึ่งโปร่งแสงดีที่สุด ใสมากไปไม่ดี

4. เนื้อมีตำหนิน้อยที่สุด

เช่น รอยขูดขีด รอยแตกร้าว มีผิวเรียบเนียนเสมอตลอดทั้งเม็ด

5. รูปร่าง

ทรงกลมเป็นที่นิยมมาก รองลงมาเป็นรูปไข่ และหยดน้ำตา (อาจจะหายาก และแพงกว่าทรงกลม)

6. ขนาด

ขนาดใหญ่ราคาสูง ควรเลือกที่มีขนาดพอดี ที่สามารถเลือก ได้หลายเม็ด ที่มีขนาดเท่าๆ กัน สำหรับจัดเข้าเป็นชุดทำต่างหู หรือสร้อยได้ สำหรับสร้อยมุก ควรจะมีรูปทรง สี และขนาด ที่เหมาะสม กลมกลืน เข้ากันได้ดี เช่น มีสีครีมประกาย เหลือบชมพ ูเหมือนกัน รูปทรงกลม ขนาดเท่ากัน ทุกเม็ด เป็นต้น รูที่เจาะ สำหรับเชื่อมต่อกัน ด้วยเส้นใยต่างๆ ควรจะมีขนาดเล็ก เรียบเสมอกัน ตลอดทุกเม็ด เช่นกัน

7. ราคา

ราคาไข่มุกขึ้นอยู่กับ ขนาด รูปร่าง สี ความเหมาะสม พอดี ที่จะจัดเข้าคู่กัน อาจจะซื้อขาย เป็นน้ำหนัก หรือขนาดก็ได้

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อไข่มุก

1. ไข่มุกแท้เกิดจากธรรมชาติ และไข่มุกเลี้ยง ไม่สามารถ แยกออก จากกัน ด้วยตาเปล่าได้ แต่ที่มีขาย อยู่ทั่วไป ในท้องตลาด มักจะเป็น ไข่มุกเลี้ยง มีรูปร่างกลมงดงาม หรือรูปร่าง ไม่แน่นอน

2. ไข่มุกที่ขายในท้องตลาด เป็นสายรูปร่างบิดเบี้ยว เหมือนเมล็ด ข้าวสาร มีสีตั้งแต่ ขาว ครีม ขาวอมชมพู เป็นไข่มุกเกิดจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่ มาจาก ประเทศจีน เป็นไข่มุกเกิด ในน้ำกร่อย

3. ไข่มุกเทียม ให้ระวังเพราะ ราคาแตกต่างจาก ไข่มุกธรรมชาติ และไข่มุกเลี้ยงหลายเท่า ไข่มุกเทียม อาจจะทำจาก ลูกปัดแก้ว พลาสติก ลูกปัดแก้ว (จากเปลือกหอยมุก) โดยทำให้มี ลักษณะเป็นมุก โดยเคลือบ ด้วยสาร ซึ่งทำมาจาก เกล็ดปลา ผสมกับสารเคมีอื่นๆ การเคลือบ อาจจะ ทำหลายๆ ครั้ง ซึ่งอาจจะ ทำเทียม จนดูคล้าย ไข่มุกแท้มาก ซึ่งอาจจะยาก หรือง่ายต่อ การตรวจสอบ มีวิธีตรวจสอบ บางอย่าง เช่น สังเกตดู ประกายมุก ของไข่มุกเทียม ไม่แวววาว นุ่มนวลเหมือน ไข่มุกแท้กล่าวคือ มีประกายมุก เหมือนกัน แต่ประกายคล้าย มุกด้านๆ หรือ แตะไข่มุก ด้วยปลายลิ้น ไข่มุกเทียม จะราบเรียบ และลื่น ไข่มุกแท้ จะขรุขระ ระคายลิ้น (บางทีไข่มุกเทียม ก็อาจรู้สึกเช่นนี้ได้) หรืออาจจะใช้ กรดเกลือ เจือจาง จิ้มหยด ลงในรูเจาะ ถ้าเกิดฟองฟูขึ้น ก็ไม่ใช่ ไข่มุกเทียม

4. การเพิ่มคุณภาพไข่มุก ส่วนมากมักทำกับ ไข่มุกเลี้ยง โดยการเพิ่มสี ประกาย โดยใช้เทคนิค วิธีการต่างๆ เช่น การย้อมสี โดยการฉีดสารเคมี บางอย่าง เข้าไปในเนื้อไข่มุก หรือโดยการอาบรังสี เป็นต้น การตรวจสังเกต อาจทำได้ยาก แต่ให้สังเกตสี เช่น ไข่มุกสีดำ เทา ให้ระวังหน่อย เพราะอาจจะผ่าน การย้อมสี หรือให้สังเกต ภายใต้กำลังขยาย ใช้แสงอุลตราไวโอเลต (UV Fluorescence) ชนิดคลื่นยาว (long wave) ดูการเรืองแสง ซึ่งจะไม่เหมือนปกติ

การดูแลรักษา

เนื่องจากไข่มุก เป็นสารอินทรีย์ ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต ดังนั้นจึงควรนำไข่มุก ให้ห่างไกลจาก สารเคมี กรด เครื่องสำอางค์ต่างๆ น้ำหอม เพราะจะทำให้สี และประกายหมอง ลดความสวยงามลงไปได้ นอกจากนี้ ควรจะแยกเก็บไข่มุก ไว้ต่างหาก จากเครื่องประดับ รัตนชาติชนิดอื่น เพราะไข่มุก มีความแข็งไม่มาก อาจจะทำให้เกิด รอยขูดข่วน แตกร้าวได้ ควรเช็ดไข่มุก ด้วยผ้าอ่อนนุ่ม หรือผ้าชุบน้ำมัน เพื่อเพิ่มความสวยงาม และอย่าวางไข่มุก ใกล้บริเวณที่มีอุณหภูมิ หรือความร้อนสูง อาจจะทำให้สีเปลี่ยน หมองลง หรือแตกร้าวได้